Hand Cream


ข้อดีของหน้าหนาวที่ฉันสัมผัสได้ คงจะเป็นการประหยัดครีมอาบน้ำ ก็แหม...เย็นซะขนาดนี้ เหงื่อไม่ค่อยออก เพราะฉะนั้น ไม่ต้องขัดตัวมากนักหรอก วิ่งเอาตัวผ่านน้ำ น่าจะเพียงพอแล้ว (มันใช่หรา)

ในเวลาต่อมา ฉันจึงพบว่า มันเป็นความประหยัดที่ต้องแลกมาด้วยความไม่ประหยัด หุหุ งงมั้ย อ่านต่อไปสิ

สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับอากาศหนาว ในแบบที่ฉันแทบจะไม่ค่อยรู้ตัว นั่นก็คือ ผิวแห้ง แตกระแหงเป็นลวดลาย มองไปก็คล้ายกับผืนดินที่ไม่ค่อยได้รับการรดน้ำ เป็นความแห้งที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับว่า ผิวหนังพร้อมที่จะแยกเป็นแผ่นตามร่องรอยที่ปรากฏ

อ่านมาถึงตรงนี้ เข้าใจกันบ้างหรือยัง ไอ้ความประหยัดที่ไม่ประหยัดน่ะ

ใช่ค่ะ ถึงจะประหยัดครีมอาบน้ำได้ แต่ฉันก็ต้องเสียเงินซื้อครีมทามืออยู่ดี (ส่วนครีมทาตัวน่ะ ใช้เป็นประจำอยู่แล้วไง)

ภาพของหลังมือที่มีริ้วรอยแห่งฤดูหนาว ดูแล้วมันช่างขัดตาขัดใจฉันซะเหลือเกิน ทำให้ต้องกลับมาใส่ใจในสภาพผิวหนังและฝ่ามือของตนเองอย่างเร่งด่วน

นี่คือช่วงเวลาแห่งการฉุดดึง เหนี่ยวรั้ง และดูแลรักษามือ เพื่อไม่ให้ริ้วรอยแห่งความชราภาพ มาเยือนมากไปกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนวิธีการน่ะเหรอ ง่ายมาก หลังจากอาบน้ำตอนเช้าและก่อนเข้านอน ประโคมไปเลยค่ะ บีบ hand cream แล้วชโลมให้ทั่วฝ่ามือและหลังมือ

ชั่วขณะที่ทำการลูบไล้ครีมให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวหนัง เป็นความรู้สึกที่อิ่มเอมและฟินดีเหมือนกันนะ

ด้วยอานุภาพของครีมทามือที่ฉันไปซื้อหามา เพียงสองสามวันหลังจากนั้น สภาพผิวค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟู รอยแตกราวดินแยกหายไป ผิวดูเรียบเนียน และนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โอ้ว่าพลังแห่ง hand cream นี่มันดีจริงเชียว

มือแห้งก็ทาครีม แล้วถ้าใจแห้งล่ะ ต้องเยียวยาด้วยอะไร

พูดไปแล้ว ทำให้เกิดนึกอยากได้ mind cream ขึ้นมาบ้าง มันคงจะดีอยู่ไม่น้อย หากโลกนี้ มีครีมวิเศษที่ช่วยกอบกู้สภาพจิตใจ ช่วยปรับเปลี่ยนใจอันซึมเซา ให้ค่อยกลับมาสดใส มีชีวิตชีวา

อยากรู้ว่า mind cream ในแบบที่ว่า มันจะขายในราคาเท่าไหร่กันหนอ

ถ้าไม่แพงมาก ฉันอาจจะลองซื้อมาทดสอบคุณภาพดูสักที

Source
ภาพประกอบ: Photo by ian dooley (@sadswim) from Unsplash

Comments