หนึ่งในการละเล่นที่เป็นที่นิยมในหมู่เด็กผู้หญิงสมัยฉัน คือ การเล่นตบแปะ เป็นเกมที่สามารถเล่นได้ทั้งเวลาเช้า กลางวัน เย็น ถึงโรงเรียนตอนเช้า ขณะรอเข้าแถวเพื่อเคารพธงชาติ เราก็มาตบแปะ พักกลางวัน หากใครเดินผ่านกลุ่มนักเรียนหญิง เชื่อว่าต้องได้เห็นเด็กนั่งเล่นตบแปะอย่างน้อยก็หนึ่งคู่ ช่วงเย็นก่อนกลับบ้าน บางคนก็ยังอุตส่าห์เล่นตบแปะเป็นการอำลาเพื่อนในเย็นวันนั้น ก่อนจะเริ่มลูปทุกอย่างอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
เพลงตบแปะที่ฉันเคยเล่น มีอยู่มากมายหลายเวอร์ชันด้วยกัน เพลงที่จำได้แม่นสุด คงจะเป็น นางเงือกน้อย เอ้า! เรามาทบทวนความหลังด้วยการรื้อฟื้นเพลงนี้ไปด้วยกันดีกว่า
“นางเงือกน้อย ตบบน ตบล่าง ตบหน้า ตบหลัง ตบพร้อมๆ กัน” จากนั้นก็ต่อด้วยการนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ one two three…นับไปจนถึง ten และจบลงด้วยการพูด ten ten ten ten ten แบบรัวๆ แถมท้ายด้วยการเป่ายิ้งฉุบ
กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ คาดว่ามือของนางเงือกน้อยคงอ่วมอรทัย อันเนื่องมาจากการออกแรงตบไปซะทุกทิศทาง สมควรได้สมญานามใหม่จากนางเงือกน้อย กลายเป็น “นางเงือกมือตบ” เฮ้อ! คนแต่งเพลงนี้ ช่างไม่สงสารนางเงือกน้อยเอาซะเลยเนอะ
ส่วนวิธีการเล่นนั้น มีขั้นตอนดำเนินไปตามบทเพลง เริ่มจากการประสานมือเข้าด้วยกัน โดยเปลี่ยนจากการวางมือแนวตั้งเหมือนเวลาประนมมือไหว้ มาเป็นวางมือในแนวนอน แล้วนำมือไปตบเบาๆ กับมือเพื่อนเป็นจำนวนสามครั้ง ครบถ้วนตามคำว่านางเงือกน้อยนั่นแหละ
ลำดับต่อไป เป็นการยกมือด้านขวาตบไปด้านบน ล่าง จากนั้นสองมือก็ตบด้านหน้าและหลัง ตามมาด้วยการตบพร้อมกันอีกสามที พอมาถึงตรงส่วนนับเลขหนึ่งถึงสิบ เราก็จะแปะมือกับเพื่อน โดยสลับขวา-ซ้ายเป็นจำนวนสิบครั้ง ส่งท้ายด้วยการตบรัวๆ อีกประมาณห้าครั้ง ก่อนจะทำการเป่ายิ้งฉุบ
ใครเป่ายิ้งฉุบแพ้ ก็มาต่อกันด้วยเกม จีจ่อเจี๊ยบ โดยคนแพ้จะเป็นผู้เอานิ้วไปจ่อใต้ฝ่ามือของผู้ชนะ จากนั้นก็เริ่มร้อง “จีจ่อเจี๊ยบ มะลงมะเลี้ยบ แช่วับ ตุ๊กแกไล่งับ ปิดประตูปึ้งปั้ง” ซึ่งเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมในตอนที่ร้องมาถึง “ปึ้งปั้ง” ให้ดี เพราะในจังหวะนั้น ฝ่ามือที่เราเอานิ้วเข้าไปจ่อ จะกำลงมาทันใด ใครเอานิ้วออกไม่ทัน ก็แพ้ไปจ้า เรียกว่าแพ้ในแพ้ เป็นการพ่ายแพ้แบบ inception (หน้าคุณพี่ Leonardo DiCaprio ลอยมาเลย)
จะว่าไป การเล่นตบแปะ ถือเป็นเกมที่เล่นไปได้เรื่อยๆ และไม่ค่อยเปลืองพลังงานสักเท่าไหร่ อยู่ที่ว่าผู้เล่นจะจำเพลงต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ช่วงพีคของเกม มักจะอยู่ในตอนท้าย ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการเป่ายิ้งฉุบ
ในขณะที่ปากทำการร่ายคาถาอมตะ “ยันยิงเยา ปั๊กกะเป่ายิ้งฉุบ” ผู้เล่นแต่ละคนก็ต้องตัดสินใจเลือกอาวุธที่ตัวเองจะใช้ เมื่อถึงเวลาออกรบก็เสี่ยงดวงเอาเลยระหว่าง ค้อน กระดาษ และกรรไกร
นี่แหละ ความตื่นเต้น สนุกสนานประจำวันของเหล่าเด็กหญิงในวันวาน ซึ่ง ณ วันนี้ กำลังก้าวเท้าสู่ความเป็นหญิงวัยกลางคนเข้าไปทุกทีแล้ว
จากนางเงือกน้อย ผิวพรรณผุดผ่อง เต่งตึง กลายร่างเป็นนางเงือกหง่อม ผู้หญิงที่ระดับคอลลาเจนค่อยๆ ทยอยหายไปจากชั้นผิวหนัง
อีกไม่นาน นางเงือกหง่อมคงได้อัพเกรดไปอีกขั้น เป็นนางเงือกวัยทอง เหอะๆ และนี่คือเสียงหัวเราะที่มีน้ำตาซ่อนอยู่
Source
Comments
Post a Comment