มีประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ มาเล่าให้ฟัง อันเนื่องมาจากการโดยสารพี่วินมอเตอร์ไซค์เมื่อวานนี้ ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวขำขันสำหรับตัวเอง
แหะๆ คือว่า ณ ตอนที่เกิดเหตุการณ์น่ะ ฉันก็ขำไม่ค่อยจะออกหรอก แต่เมื่อผ่านไปแล้ว เฮ้อ...โล่งแระ เพิ่มระดับเสียงหัวเราะได้อย่างมั่นใจ
เรื่องมีอยู่ว่า ฉันต้องไปธุระข้างนอก เลยโบกพี่วินประจำซอย พร้อมบอกที่หมายปลายทางว่า “ปากซอยค่ะ”
พี่วินที่เป็นคนรับคิวตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่พอถึงเวลาเดินทาง กลับเป็นพี่วินอีกคนหนึ่ง มาทำหน้าที่สารถีไปส่งฉัน
เมื่อคุณพี่วกรถมาจอดบริเวณบาทวิถีที่ฉันกำลังยืนรออยู่ เพื่อความเข้าใจอันตรงกัน ฉันจึงย้ำกับคุณพี่วินอีกครั้งว่าต้องการไปปากซอย
คุณพี่ขี่รถพาฉันไปเรื่อย และในที่สุดก็ชะลอรถเข้าจอดชิดบาทวิถี
อ้าว เอ๊ะ ยังไงกันล่ะ นี่มันเพิ่งครึ่งทางเองนี่หว่า
นั่งงงๆ มองแผ่นหลังคุณพี่วินอยู่สองสามวินาที ฉันจึงได้สติ บอกคุณพี่อีกครั้ง “ไปปากซอยค่ะพี่”
รวดเร็วปานสายฟ้า คุณพี่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “ปากซอยไหน”
เอาแล้วไง ตรูจะมีเรื่องกับพี่วินซะแล้วหรือนี่
หลังจากคิดทบทวนอย่างรวดเร็ว ฉันจึงเพิ่งถึงบางอ้อ เข้าใจในความนึกคิดของคุณพี่ขึ้นมาได้
จุดที่พี่วินเค้าจอดส่งฉันน่ะ อันที่จริง มันก็ถือว่าเป็นปากซอยได้เหมือนกัน เพียงแต่มันเป็นปากซอยที่ยังไม่ได้ออกไปถนนใหญ่กว่าไง
เมื่อเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ฉันจึงแก้ไขความเข้าใจของเราทั้งคู่ให้ตรงกัน โดยเปลี่ยนมาบอกคุณพี่เป็น “หนูไปลงตรงบิ๊กซีค่ะ”
ปากซงปากซอยน่ะ ลืมไปซะนะคะพี่ หนูไม่ปงไม่ไปมันแล้ว ลืมมันไปค่ะ
สถานีถัดไป บิ๊กซีค่ะพี่ บิ๊กซี
ตอนคุณพี่ขับมาส่ง ณ จุดหมายที่แท้จริง ขณะฉันกำลังยื่นเงินค่าโดยสารส่งให้ ยังแอบหวั่นๆ ในใจ กลัวคุณพี่จะต่อว่าต่อขาน แต่ก็ไม่เกิดอะไรดังเช่นที่กลัว เพราะคุณพี่รอรับเงินแบบเงียบๆ หยิบเหรียญมาทอน แล้วก็แยกจากกันตรงนั้น
ฉันออกเดินต่อ พร้อมจดจำไว้ในใจ...
สำหรับการเดินทางครั้งหน้า จะไม่ใช้คำว่า “ปากซอย” อีกแล้วจ้า
Source
Comments
Post a Comment