ออกจากบ้านช่วงสายวันอังคาร จุดหมายแห่งการเดินทาง คือ สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งใจจะไปหาซื้อกระเป๋าสะพายใบใหม่ (แอบ) หวังว่า ถ้ามีเวลามากพอ ก็จะแวะกินอะไรอร่อยๆ ก่อนกลับบ้านด้วย
การเดินทางช่วงสายของวันธรรมดานั้น เป็นอะไรที่ไม่ค่อยสร้างความทรมานกายและใจเท่าไหร่นัก รถไม่ติดมาก คนไม่เยอะจนอึดอัด
ถึงที่หมาย ฉันพุ่งตัวเข้า MUJI จุดแรกที่ดึงดูดสายตา คือ โซนเสื้อผ้าที่ติดป้าย SALE วนเวียนอยู่กับเสื้อผ้านานพอควร แต่ก็ไม่ถูกใจตัวไหนเป็นพิเศษ
แผนกต่อมาที่ฉันพาตัวไปด้อมๆ มองๆ คือ มุมเครื่องเขียน
โอย...ติดใจกับลุคมินิมอล น่าหยิบจับ น่าซื้อไปหมด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออะไรเช่นเคย
จากนั้นฉันจึงเดินดูบรรดากระเป๋า เป้ ย่าม หลากหลายแบบ ใบแรกที่เตะตา เป็นกระเป๋าผ้าสีขาวครีม ดูสะอาด ฉันชอบในความคลีน ขนาด และผิวสัมผัสของผ้า แต่ก็ต้องตัดใจ อันเนื่องมาจากความคลีนนั่นแหละ
สีขาว ดูสวย สะอาด แต่ก็พ่วงมาด้วยความดูแลรักษายาก ลาก่อน...
ฉันจึงหันไปพิจารณากระเป๋าสีดำแทน นี่แหละเหมาะกับตัวเราเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้ซกมก เลอะเทอะยังไงก็ไม่ (ค่อย) มีใครสังเกต 555
ได้กระเป๋าเรียบร้อย จากนั้นก็ไปต่อที่ร้าน Medium and More
ฮือ...ร้านนี้ก็ดีอีกแล้ว มีแต่สิ่งสวยงาม อยากได้ไปหมดทุกอย่าง และตามเคยสำหรับมนุษย์ใจอ่อน พ่ายแพ้ต่ออุปกรณ์เครื่องเขียน เป็นต้องควักกระเป๋า ซื้อสมุดบันทึก 2 เล่ม และยางลบ 2 ก้อน
บางคนอาจสงสัย ทำไมต้องซื้อยางลบสองก้อนฟระ อ๋อ...แต่ละก้อนที่ซื้อมาน่ะ มีระดับประสิทธิภาพด้านขี้ยางลบต่างกัน ก้อนนึงเวลาลบ ขี้ยางลบจะออกมามากกว่าอีกก้อน เมื่อตัดสินใจไม่ได้ เพราะงั้นก็ตัดปัญหารักพี่เสียดายน้อง ซื้อมันซะทั้งสองก้อน
สำหรับสมุดบันทึก มีเล่มหนึ่งที่ฉันชอบเป็นพิเศษ จาก palette me. แบรนด์ที่ผลิตสมุดบันทึกเล่มเล็ก กะทัดรัด ดีไซน์ปกเรียบง่ายแต่โดดเด่น ด้วยการใช้เฉดสีอันหลากหลาย
ชอบสีไหน เลือกเอาเลย อู้ววว...ละลานตา สีนั้นก็สวย สีนี้ก็โดน ฮือๆ เอาอีกแล้ว อยากได้ไปทุกสี แต่สุดท้าย ฉันก็เลือกหน้าปกสีฟ้า Glacier 040 เป็นแนวสีฟ้าพาสเทล ใสๆ อ่อนๆ เหมาะกับหญิงเรียบร้อย พูดน้อยอย่างฉัน (อนึ่ง คุณสมบัติหญิงๆ ที่พูดมาน่ะ ไม่จริงแต่อย่างใด)
ช้อปเสร็จสรรพ เดินลงไปชั้น B1 หาอาหารใส่ท้อง ลังเลอยู่ว่าจะเข้าร้านไก่ทอดญี่ปุ่นดีมั้ยนะ ระหว่างตัดสินใจ เห็น ร้านหมูทอดเจ๊จง กำลังมีคนต่อคิวซื้อเต็มหน้าร้าน นั่นไง มันต้องดีแน่ๆ
ไก่ทอดญี่ปุ่น ลืมไปก่อน หมูทอดสัญชาติไทย มาแรงกว่า
ระหว่างต่อคิว เห็นทั้งไก่ทอด หมูยอ กุนเชียง หมูสามชั้นทอด อลังการสุด คือ หมูทอดที่ยังไม่ได้หั่น เรียงกันเป็นตับ ตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย สั่งหมูทอดมากินสองขีด ปักหลักกินตรงโต๊ะแถวนั้นแหละ
ตามความเห็นของฉัน หมูทอดจะออกรสหวานนิดหน่อย แต่ก็ชอบตรงแป้งกรอบๆ ที่เคลือบเนื้อหมูด้านนอก ส่วนความดีงามขั้นกว่า อยู่ตรงน้ำจิ้มแจ่วที่ทางร้านให้มาด้วยตามปริมาณที่สั่ง ฉันสั่งหมูสองขีด ก็ได้น้ำจิ้มแจ่วมาสองถ้วย
แม้จะไม่เชี่ยวกับรสชาติเผ็ด แต่แจ่วของเจ๊จงนี่มันดีมากเลยนะ ยิ่งจิ้มยิ่งอร่อย แซ่บหลาย ปากเบิน ห้อย ย้อยก็ยอมล่ะ
ก่อนกลับบ้าน ฉันเลยซื้อหมูทอดเพิ่มอีกสองขีด สำหรับมื้อเย็น
อูย...กินเสร็จ ปากเบินสุดๆ
Source
Comments
Post a Comment