เหมือนว่าอากาศที่เคยหนาวเมื่อช่วงอาทิตย์ก่อน เริ่มจะอุ่นขึ้นเล็กน้อยแล้วล่ะ
นี่แหละหนา หน้าหนาวเมืองไทย มาไวไปไวเหลือเกิน
ถึงจะบอกว่าอากาศอบอุ่นขึ้น แต่ความเย็นก็ดูเหมือนจะยังทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ได้สัมผัสอยู่บ้าง ช่วงนี้ฉันเลยบอกลาบรรดาเครื่องดื่มเย็นๆ ไปชั่วคราว เดี๋ยวร้อนแล้วเราค่อยเจอกันใหม่เนอะ
สำหรับมื้อกลางวันที่ผ่านมา เนื่องจากอยากกินอะไรที่มันอุ่นท้อง ฉันจึงคิดถึงแกงจืดเต้าหู้ไข่สาหร่าย นึกภาพเวลาได้ซดน้ำแกงอุ่นร้อนลงท้อง โอย...หิวจัง
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยมัธยม แทบทุกวันหลังเลิกเรียน ฉันกับเพื่อนๆ จะต้องไปเรียนพิเศษ หมุนเวียนไปหลากหลายวิชา (เพียงแค่คิดถึงช่วงเวลานั้น เพลียขึ้นมาทันที)
เนื่องจากซอยบ้านคุณครูสอนเลข ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่ม ทำให้หลังเลิกเรียน พวกเรามักจะยกโขยงกันไปพักผ่อน เพื่อรอเวลาเรียนพิเศษที่บ้านของเพื่อนคนนี้
ด้วยความที่การเรียนพิเศษ กินเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ฉันและเพื่อนๆ ต้องจัดการเรื่องปากท้องให้เรียบร้อย อิ่มหนำเสร็จสรรพ จะได้มีพลังไปต่อสู้กับการเรียนต่อไป
ส่วนมากคุณเพื่อนเจ้าถิ่น จะพาพวกเราไปตระเวนกินตามร้านข้างทางในละแวกนั้น มีทั้งก๋วยเตี๋ยว หอยทอด อาหารตามสั่ง แต่หากวันไหนโชคดี บางครั้งคุณแม่ของเพื่อนจะลงมือทำกับข้าวให้พวกเรากินเป็นอาหารเย็น
แกงจืดเต้าหู้ไข่สาหร่าย คือ อาหารฝีมือแม่เพื่อนที่ฉันประทับใจ เริ่มจากการนำแผ่นสาหร่ายไปอังไฟ วิธีนี้จะทำให้สาหร่ายมีกลิ่นหอมกว่าเดิม เมื่อนำไปหย่อนลงหม้อต้ม กลิ่นไหม้เล็กๆ ของสาหร่ายที่ผสมปนเปไปกับน้ำซุป ทำให้แกงจืดยิ่งหอมอร่อย
หลังจากครั้งนั้น ฉันจึงจำสูตรแกงจืดสาหร่ายของคุณแม่เพื่อนมาบอกแม่ และขอให้แม่ลองทำตามสูตรดังกล่าว อืม...อร่อยไม่แพ้ฝีมือแม่เพื่อนเลย แถมยังกินได้แบบเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะกินเยอะจนคนอื่นไม่ได้กิน (มันฟินตรงนี้นี่แหละ)
กลับมา ณ ปัจจุบัน สำหรับแกงจืดสาหร่ายเต้าหู้ไข่จากร้านตามสั่งในวันนี้ กลิ่นคงจะหอมสู้แกงจืดฝีมือแม่เพื่อนไม่ได้ แต่อย่างน้อยเวลาได้ซดน้ำซุป มันก็ช่วยให้อุ่นท้องอยู่เหมือนกัน
ว่าแล้วเดี๋ยวคงต้องลองไปเปิดตู้เก็บอาหารแห้งดูซะหน่อย เผื่อมีแผ่นสาหร่ายติดตู้ไว้ อาจได้เวลาแสดงฝีมือ ทำอาหารกินเองอีกสักมื้อ
Source
Comments
Post a Comment