ห้าทุ่มคืนวันอาทิตย์ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าสู่วันทำงาน ใครหลายคนอาจเข้านอน เตรียมตัวรับเช้าวันจันทร์ ส่วนฉันน่ะเหรอ เหอะๆ ไม่หลับไม่นอนตามเคย
อันที่จริงแล้ว ต้องบอกว่ากำลังกึ่งนั่งกึ่งนอน ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา หาหมอนมาหนุน สายตาจดจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ เฝ้ารอดูหนังในแบบเตรียมพร้อมเต็มที่
The Shawshank Redemption ได้ทำลายความตั้งใจที่จะเข้านอนแต่หัวค่ำของฉันไปแล้ว (แหม อย่ามาพูดเหมือนเป็นผู้ใหญ่อนามัยเล้ยยยย ทุกวันก็ไม่เห็นว่าจะเข้านอนเร็วซะที)
ก่อนจะเข้าสู่ความประทับใจจากเรื่องราวในภาพยนตร์ ขอสารภาพว่าฉันไม่เคยได้ดูหนังเรื่องนี้แบบเต็มๆ เลยสักครั้งเดียว ที่ผ่านมา เคยดูบ้าง แต่หนังก็ดำเนินเข้าสู่ช่วงกลางเรื่องไปเรียบร้อย
ค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จึงถือเป็นครั้งแรกที่ฉันมีโอกาสได้ดู The Shawshank Redemption ตั้งแต่ต้นจนจบ ประเด็นที่เคยสงสัยมาก่อนหน้า ก็ได้รับการเฉลยซะที อืม...เหมือนจะรู้เลยเนอะว่ายังไงก็คงได้ดูอีกครั้งในอนาคต
The Shawshank Redemption สร้างจากบทประพันธ์ของราชาเรื่องราวเขย่าขวัญ Stephen King โดยเป็นหนึ่งในเรื่องสั้นจากหนังสือ Different Seasons
เรื่องราวของพนักงานธนาคาร Andy Dufresne ชายผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าภรรยาของตัวเอง พร้อมกับชู้รัก จากข้อหาร้ายแรงดังกล่าว ทำให้เขาถูกตัดสิน พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำนวนสองครั้ง (โฮๆ ครั้งเดียวก็ว่าแย่แล้ว นี่โดนตั้งสองครั้ง ชีวิตมืดหม่นเหลือเกิน)
ในวันแรกของการเดินทางมาถึง Shawshank สถานที่คุมขัง เหล่านักโทษหน้าเก่า ต่างพากันพนันขันต่อยกใหญ่ รุ่นพี่นักโทษเหล่านั้น กำลังคาดคะเนว่า นักโทษน้องใหม่คนไหนกันหนอ จะออกอาการ ‘สติหลุด’ กับชีวิตคืนแรกภายในคุก
Ellis Boyd Redding หรือ “Red” สมญานามที่เหล่าเพื่อนนักโทษเรียกขาน เป็นหนึ่งในนักโทษรุ่นเก๋าที่ร่วมพนันในครั้งนี้ด้วย โดยน้องใหม่ที่ Red เล็งเอาไว้ก็คือ Andy นั่นเอง
ในคืนนั้น Red เสียพนัน จำต้องเสียบุหรี่ให้กับเพื่อนนักโทษร่วมก๊วน
Red ใช้ชีวิตภายในคุก และหา ‘รายได้พิเศษ’ ให้ตนเอง ด้วยการเสาะหาสิ่งของที่เหล่านักโทษต้องการ ใครต้องการอะไร บอก Red มาเถอะ เขาหามาให้ได้ทั้งนั้น
จากจุดนั้น จึงทำให้นักโทษน้องใหม่ Andy ผู้ได้รับการโจษจันในหมู่นักโทษด้วยกันว่า แสนจะเย่อหยิ่ง เข้ามาพูดคุยกับ Red เพื่อไหว้วานนักโทษรุ่นพี่ ช่วยหาค้อนขุดหินให้กับเขา
ระหว่างถูกจองจำ Andy ได้ใช้ความรู้ ความสามารถจากอาชีพเดิมของเขาให้เป็นประโยชน์ โดยให้คำแนะนำด้านการเงินแก่ผู้คุมนักโทษคนหนึ่ง ซึ่งการเสนอตัวเข้าช่วยเหลือของเขาในครั้งนี้ มาพร้อมกับการเรียกร้องสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากผู้คุมนักโทษ
ภาพที่ Red และบรรดาเพื่อนนักโทษร่วมก๊วน นั่งจิบเบียร์เย็นฉ่ำอย่างมีความสุข หลังจากตรากตรำทำงานกลางแจ้ง โดยมี Andy นั่งพิงกำแพง และเฝ้ามองอยู่พร้อมรอยยิ้ม เป็นหนึ่งฉากที่ฉันประทับใจมาก
นอกจากนี้ Andy ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบพินิจพิเคราะห์ก้อนหินเป็นงานอดิเรก ยังมุ่งมั่นในการเขียนจดหมายไปยังหน่วยงานของรัฐ เพื่อขอทุนสำหรับพัฒนาห้องสมุดของเรือนจำอีกด้วย
ฉากที่ผู้คุมนักโทษบอกข่าวดีกับเขา พร้อมโชว์ให้ดูลังกระดาษหลายลังที่ภายในบรรจุหนังสืออยู่จนเต็ม ทำให้คนรักหนังสืออย่างฉัน พลอยมีความสุขไปด้วย
ยามที่ Andy บรรจงหยิบแผ่นเสียงจากโอเปรา The Marriage of Figaro ผลงานประพันธ์ของ Mozart มาเปิดฟัง และเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนร่วมคุก ด้วยการถ่ายทอดเสียงเพลงให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความไพเราะของดนตรีกันอย่างถ้วนทั่ว กระหึ่มเรือนจำกันไปเลยจ้า เป็นอีกหนึ่งฉากที่งดงามในความรู้สึกของฉัน
ใช่ว่า The Shawshank Redemption จะมีแต่ความแฮปปี้เพียงอย่างเดียว ฉากเศร้า สะเทือนใจ เจ็บปวดก็มีมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของ Brooks Hatlen นักโทษชาย ผู้ทำงานในห้องสมุดของเรือนจำ ซึ่ง Andy เคยได้ร่วมงานด้วย
“Brooks was here” คือ ข้อความที่นักโทษชราผู้นี้ ได้สลักเอาไว้ภายในห้องที่เขาพักอาศัย ภายหลังจากพ้นโทษ
ประโยคดังกล่าว ทำให้ฉันหายคาใจเสียทีว่า Brooks นี่เป็นใคร มาได้ยังไง แต่...ไม่ทันได้ร้องอ๋อ ก็ต้องตกใจกับฉากเศร้าถัดมา ฮือ
มาถึงอีกหนึ่งฉากช็อกอารมณ์ความรู้สึก อยู่ในตอนที่ Samuel Norton พัศดีผู้ควบคุมเรือนจำ เรียกตัว Tommy Williams มาสอบถามประเด็นสำคัญ โดยเด็กหนุ่มผู้นี้ เป็นคนที่ Andy ทุ่มเทพลังกายพลังใจในการสอนให้รู้หนังสือ และในที่สุดก็สามารถสอบวัดระดับผ่าน
เด็กหนุ่ม Tommy ตอบคำถามของท่านพัศดีอย่างตรงไปตรงมา แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้น โอย...มันสะเทือนใจ จนฉันอยากทะลุหน้าจอทีวี แล้วยื่นมือไปบีบคอพัศดี ให้สาสมกับความโหดร้ายที่เขาได้กระทำลงไปยิ่งนัก
วันเวลาในคุก ยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งถึงวันที่ Red พ้นโทษ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เขาได้ออกเดินทางไปยัง Buxton ตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับ Andy
ภาพของต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่าน โดดเดี่ยวแต่สง่างาม ท่ามกลางทุ่งหญ้า และ Red ที่กำลังนั่งพิงแนวก้อนหิน พร้อมเปิดจดหมายจาก Andy ที่เขียนถึงตนเองออกอ่าน เป็นฉากในตำนานที่แสนประทับใจ
เมื่อ Red จรดปลายมีด สลักข้อความ “So was red” ใกล้กันกับข้อความของ Brooks เพื่อนเก่า จากนั้นจึงก้าวเดินออกจากห้องพัก แสดงถึงความหวัง และการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง
ฉันชื่นชอบและชื่นชมกับบทบาทการแสดงของ Tim Robbins และ Morgan Freeman ผู้รับบท Andy และ Red มากเลย แม้กำลังนั่งดูอยู่หน้าจอโทรทัศน์ แต่นักแสดงทั้งคู่ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่เขากำลังประสบพบเจอ นักแสดงทั้งคู่ มีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยม จนคนดูอินตามอย่างง่ายดาย
The Shawshank Redemption จึงเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี มั่นใจได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังคงตราตรึงอยู่ในใจฉันเสมอ
ภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้คนโหยหาถึงอิสระ กระตุ้นให้อยากออกเดินทางไกล เพื่อตามหาความหมายของชีวิต
เมื่อเรื่องราวในภาพยนตร์จบลง สิ่งที่ฉันนึกอยากทำขึ้นมาทันที นั่นก็คือ ตีตั๋ว ไป Fort Hancock ใน Texas จากนั้นก็ข้ามชายแดน เพื่อไปเยือน Zihuatanejo
หวังไว้ในใจว่า บางที (หากโชคดี) ฉันอาจได้พบ Andy และ Red กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนเรือไม้สีขาว จิบเบียร์ และพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกันอย่างสบายอารมณ์ ท่ามกลางหาดทรายสีทอง น้ำทะเลสีฟ้าใส และแดดที่ส่องเป็นประกาย
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment