ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็กประถม กระเป๋านักเรียนของฉันในตอนนั้น เป็นกระเป๋าสีน้ำเงินเข้ม ด้านหน้าของกระเป๋า มีช่องพลาสติกใสเล็กๆ พร้อมกระดาษแข็งสีขาว เอาไว้เขียนชื่อนักเรียนผู้เป็นเจ้าของกระเป๋า
เมื่อกลับถึงบ้านในตอนเย็น หลังจากทำการบ้านเสร็จเรียบร้อย จึงได้เวลาจัดกระเป๋านักเรียน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก จัดหนังสือ สมุด อุปกรณ์การเรียนทั้งหลายตามตารางเรียนของวันถัดไป หยิบหนังสือเล่มนั้นออก เอาเล่มนู้นใส่เข้าไปแทน ขึ้นอยู่กับวิชาที่เรียน
เช้าวันใหม่มาถึง หยิบกระเป๋าขึ้นมา จากนั้นก็สอดแขนทั้งสองข้างเข้าไปที่สายสะพาย แล้วมุ่งหน้าเข้าห้องเรียนด้วยความมั่นใจ
ครั้นพอถึงช่วงมัธยมต้น สมัยนู้นน่ะ เด็กนักเรียนส่วนใหญ่นิยม “หนีบ” กระเป๋าด้วยกันทั้งนั้น โดยอุปกรณ์สำคัญในการหนีบ ได้แก่ คลิปดำ 2 ขา หลังจากทำการหนีบคลิปดำเข้ากับด้านข้างของกระเป๋าแล้ว ก็ได้เวลาเอาขาสีเงินออกจากตัวคลิป
กระเป๋ายิ่งแบน ยิ่งเบาเท่าไหร่ มันจะยิ่งดูเจ๋ง ดูเท่ ดูคูลมากขึ้นเท่านั้น
อืม...ตอนนั้นคิดไปได้ยังไงนะว่ามันเจ๋ง ก็แหม หลังจากหนีบกระเป๋านักเรียน มันก็เหมือนกับว่าพื้นที่ใช้สอยภายในกระเป๋า ถูกจำกัดไปด้วยน่ะสิ หนังสือเรียนเล่มหนาหน่อยก็ใส่ไม่ได้ สิ่งที่พอจะยัดเข้าไปในกระเป๋าแบนลีบได้ อย่างมากก็แค่สมุดจดเล่มบาง จำนวนสองสามเล่มเท่านั้นแหละ
มาถึงช่วงม. ปลาย นี่ยิ่งแล้วใหญ่ คนรุ่นฉันในช่วงนั้น ไม่นิยมถือกระเป๋านักเรียนกันอีกแล้ว เพราะพวกเราเปลี่ยนมาแบกหนังสือและสมุดไปโรงเรียนกันเองเลยจ้า ช่างเป็นอะไรที่ทรมานตัวเองสุดๆ ไหนจะหนังสือ ไหนจะสมุด กล่องดินสอ กางเกงพละ จิปาถะ
ไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้ริเริ่มความคิดละทิ้งซึ่งกระเป๋านักเรียน แล้วหันมาแบกหนังสือด้วยสองมือ แต่ในเมื่อมันฮิต พอมีคนใดคนหนึ่งในกลุ่มทำ สมาชิกคนอื่นในกลุ่มก็เริ่มทำตามต่อกันเป็นทอดๆ
ลองนึกภาพดูสิ เช้ามาต้องแบกทั้งกองหนังสือ สมุดจดเล่มเล็ก เล่มใหญ่ รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นต่างๆ อีก ไม่สะดวกอะไรเช่นนี้ฟระ แต่...ก่อนที่จะทนไม่ไหว เรามีอุปกรณ์ช่วยชีวิตคุณได้ (นิดนึงก็ยังดี)
เจ้าสิ่งนั้นก็คือ สายรัดหนังสือ ซึ่งเจ้าสายรัดแบบยางยืดนี้ จะช่วยจัดระเบียบกองหนังสือให้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่ลื่นหลุด ตกหล่นจากมือ ถือเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตในหมู่เด็กนักเรียนเลยล่ะ แถมสายรัดหนังสือบางอัน ยังทำออกมาเป็นลายการ์ตูนน่ารักด้วยนะ นอกจากจะช่วยให้พกพาหนังสือไปไหนมาไหนสะดวกมากขึ้นแล้ว ยังสามารถเก็บเป็นของสะสมได้อีกด้วย
คิดแล้วก็ตลกตัวเองในยามนั้นเนอะ กระเป๋าดีๆ มีให้ถือก็ไม่ถือ ยอมลำบากลำบน แบกหนังสืออย่างทุลักทุเล เพียงเพราะอยากจะอินเทรนด์ตามชาวบ้านชาวช่อง
หนักไม่ว่า ขอให้ไม่ตกกระแสว่างั้น เฮ้อ! คนเราหนอ
Source
ภาพประกอบ: Photo by Matheus Bertelli from Pexels
Comments
Post a Comment