ก้อนหินละเมอ

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง ขณะที่ฉันและเพื่อนกำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ที่โต๊ะภายในโรงอาหารเพื่อรอเข้าเรียนวิชาถัดไปในคาบบ่าย เพื่อนคนหนึ่งก็ได้ถามฉันขึ้นมาว่า “แกรู้จักเพลงก้อนหินละเมอมั้ย”

ด้วยความแน่ใจเป็นอย่างยิ่งว่าไม่เคยได้ยินและไม่เคยรู้จักเพลงอะไรที่ชื่อประหลาดแบบนี้มาก่อน ก็ก้อนหินที่ไหนมันจะละเมอได้ฟระ เลยถามเพื่อนกลับไปว่ามันพูดจริงรึป่าว มีเพลงอะไรแบบนี้อยู่ในสารบบด้วยเหรอ เพื่อนจึงพยักหน้าและบอกด้วยรอยยิ้มว่า มีสิแก แล้วมันก็บอกให้ฉันลองหาเวลาไปฟังเวลาที่ดีเจเปิดเพลงนี้ทางสถานีวิทยุ พร้อมบอกชื่อวง Soul After Six ซึ่งเป็นเจ้าของบทเพลงชื่อชวนฝันนี้ให้ฉันได้จดจำเอาไว้

จำได้ว่าก่อนที่ฉันจะได้ฟัง ยังบังเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกว่า ก้อนหินละเมอ จะเป็นเพลงแนวไหนกันหนอ แล้วการละเมอของก้อนหินเนี่ย มันจะเป็นยังไงกันนะ แต่ในเมื่อยังไม่ได้ฟัง (เพราะดีเจยังไม่ยอมเปิดเพลงนี้) จึงทำได้เพียงเก็บความสงสัยนั้นไว้กับตัวเอง

จนเมื่อฉันได้ฟังเพลงนี้เป็นครั้งแรก ฟังแล้วทำให้นึกขอบคุณเพื่อนคนนั้นขึ้นมาทันทีที่มันแนะนำเพลงนี้ให้ฉันได้รู้จัก พร้อมกันนั้นก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าการละเมอของก้อนหินจะมีท่วงทำนองออกมาแนวนี้ งั้นก้อนหินทุกก้อนบนโลกใบนี้ก็คงมีอารมณ์โรแมนติกน่าดู

เริ่มแรกเมื่อขึ้นต้นเพลง จะได้ยินเสียงเบสทุ้มต่ำลอยมาเลย ซึ่งเสียงเบสในเพลงนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญมากที่ทำให้เพลงเป็นที่จดจำในหมู่ผู้ฟัง เปรียบได้กับผู้ควบคุมจังหวะจะโคนของเพลง เหมือนกับเบสเป็นพนักงานต้อนรับ คอยแนะนำชี้ทางผู้ฟังให้ค่อยๆ เข้าไปดื่มด่ำกับตัวเพลง ฉันคิดว่าเพลงนี้เป็นหนึ่งในบทเพลงที่เสียงเบสมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก

Soul After Six เป็นวงดนตรีที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คน ได้แก่ ปึ่ง ปิงปอง และบิ๊ก ออกอัลบั้มแรกในปี พ.ศ. 2539 (ไม่น่าเชื่อว่ามันผ่านมาสองทศวรรษนิดๆ เข้าไปแล้ว) โดยก้อนหินละเมอคือเพลงที่ถือได้ว่าเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของวงนี้

ใครที่เป็นแฟนเพลงของวงนี้ น่าจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่ามือเบสของวงนี้ ได้แก่ บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์ ที่นอกจากจะเป็นนักดนตรีแล้ว เขายังเป็นนักแสดงด้วย โดยผลงานการแสดงล่าสุดของเขา เล่นเอาโด่งดังเป็นพลุแตกไปเลยกับการสวมบทบาทเป็น สมเด็จพระเพทราชา จากละครโทรทัศน์ที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองเรื่องบุพเพสันนิวาส (คุณพี่หมื่นกับออเจ้าไงล่ะเธอ)

จากกระแสตอบรับที่ดีมากจากผู้ชม ทำให้นักแสดงทุกคนในละครเรื่องนี้ ล้วนเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างถ้วนทั่ว ไล่มาตั้งแต่ท่านออกญาโหราธิบดี คุณหญิงจำปา ป้าปริก พี่ผิน พี่แย้ม ไปจนกระทั่งไก่ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้จ้อย บ่าวคู่ใจของคุณพี่หมื่น

จากการเฝ้าติดตามดูละครเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นตากับภาพของบิ๊กในละครเรื่องนี้ไปแล้วเรียบร้อย เมื่อได้ยินเพลงก้อนหินละเมออีกครั้ง ภาพที่มักจะมาปรากฏในหัว จึงเป็นภาพเขาในชุดเครื่องแต่งกายเต็มยศแบบในละครบุพเพสันนิวาส กำลังนั่งเล่นเบสอย่างสบายอารมณ์ เอิ่ม...ออกมาจากการมโนบ้าบอของแกดีกว่ามั้ย

ก้อนหินละเมอ เป็นเพลงที่เมื่อได้ฟัง จะให้ความรู้สึกเหมือนฉันกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า มีสายลมพัดผ่านเบาๆ ให้รู้สึกเย็นสบาย แหงนหน้ามองแสงจันทร์และหมู่ดาว พร้อมกับฝันหวานไปด้วย

เป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้อารมณ์ดี ยิ่งตรงท่อนคอรัสที่ร้องว่า “อยากให้ความทรงจำที่เธอให้ไว้ ช่วยทอแสงประกายทุกวัน เพราะเพียงความอบอุ่นจากเธอไม่นาน จะต่อเติมความสำคัญฉันได้” ได้ยินแล้ว ประหนึ่งการขับกล่อมจากทุ่งหญ้าเลย เนิบช้า อ่อนโยน แต่อุ่นใจ

อยากให้ก้อนหินทุกก้อนละเมอออกมาเป็นเสียงเพลงแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ ฉันจะได้ไปเก็บมาสักก้อนสองก้อน เอาไว้กล่อมตัวเองให้หลับฝันดีในทุกค่ำคืน

Source

ภาพประกอบ: Photo by Scott Webb from Pexels