นานมาแล้ว ฉันและเพื่อนสนิทสมัยมัธยม (จะเป็นใครไปได้อีก นอกจาก เลขที่ 1 เจ้าเก่าเจ้าเดิมนี่แหละ) กำลังพูดคุยไร้สาระกันไปตามประสา คุยเรื่องนู้น ถกเรื่องนี้ เถียงเรื่องนั้น จนหัวข้อสนทนามาถึงเรื่องศิลปะได้อย่างไรก็สุดจะรู้
ในวันนั้น เลขที่ 1 เพื่อนเก่า ได้พูดถึงผลงานภาพวาดชิ้นหนึ่งขึ้นมา แต่ฉันในตอนนั้น กลับไม่รู้จักภาพดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้ต้อง multitasking เอาโทรศัพท์มาแนบด้านข้างของใบหน้า แล้วหนีบไว้กับต้นคอ ขณะที่มือก็ทำการพิมพ์ค้นหารูปภาพที่ว่า
The Persistence of Memory คือ ชื่อของภาพวาดนั้น
ภาพวาดอันมีชื่อเสียงชิ้นดังกล่าว เป็นผลงานของ Salvador Dalí ศิลปินชาวสเปน
เมื่อได้เห็นภาพจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก ฉันได้แต่มองดูด้วยความอัศจรรย์ใจ ปนไปด้วยความพิศวงงงงวย นี่มันภาพชนิดไหนกันหนอ ทำไมนาฬิกามันถึงได้ดูหลอมละลาย และพร้อมจะไหลลื่นลงพื้นทุกขณะเยี่ยงนั้น
ไหนจะรูปร่างประหลาดตรงกลางภาพอีก นั่นมันอะไรกันน่ะ แล้วสภาพอากาศในภาพ มันต้องร้อนขนาดไหนนะ ถึงทำให้นาฬิกาละลายได้ เป็นภาพที่แปลกจริงๆ อยากรู้ว่าศิลปินผู้วาดภาพ กำลังคิดอะไรอยู่ รูปวาดถึงได้ออกมา exotic ปานนั้น
รูปวาดว่าประหลาดและแปลกตาแล้ว รูปถ่ายของศิลปินผู้วาดภาพ ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้กัน
หลากหลายภาพถ่ายของ Salvador Dalí ที่ฉันคุ้นตา มักจะเป็นภาพที่เขาเบิกตาโต พร้อมหนวดโค้งขึ้น ดูแล้วคล้ายกับว่าหนวดของเขา ส่งยิ้มได้อย่างไรอย่างนั้น
นึกถึงภาพนี้แล้ว ทำให้เผลอคิดเล่นๆ ว่า ถ้าหากวันพรุ่งนี้ ฉันเอานาฬิกาไปตั้งกลางแดด ไม่แน่นะ เราอาจจะได้เห็น The Persistence of Memory ในเวอร์ชันบางกอกก็เป็นได้
แดดแรงออกอย่างนี้ แม้นาฬิกาอาจไม่ละลายแบบในภาพวาดอันโด่งดัง แต่มนุษย์ตาดำๆ แทบจะละลายไปกับแดดแล้วล่ะจ้า
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment