นั่นล่ะค่ะ ชื่อเรื่องของวันนี้ คืออาหารว่างที่เป็นของโปรดอย่างหนึ่งของฉัน ขอเรียกสั้นๆ แล้วกันว่าขนมครกไข่นก เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินเพลิน จากประสบการณ์ที่เคยกินมา เราจะสามารถหาซื้อเมนูนี้กินได้แถวตลาดน้ำ อย่างน้อยทั่วทั้งตลาด มันต้องมีหนึ่งเจ้าที่เปิดกิจการแคะขนมครกไข่นกขายชัวร์
สำหรับฉัน เจ้าขนมครกไข่นก ให้ความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างอาหารและขนม คือจะจัดให้อยู่ในหมวดอาหารคาว มันก็ดูเบาไปนิด แต่จะให้เรียกว่าขนม ก็อาจจะขัดความรู้สึกตรงที่มันเป็นไข่นี่แหละ ตัดปัญหายุ่งยากใจทั้งปวง งั้นส่งเข้ากลุ่มอาหารว่างก็แล้วกันเนอะ
พูดถึงไข่นกกระทา ด้วยความที่ไข่ชนิดนี้ มีขนาดเล็กกว่าไข่ไก่ ทำให้หลายครั้งหลายหน เมื่อฉันกินขนมครกไข่นก มักจะเพลิดเพลินเกินพิกัด ลืมคิดไปเลยว่า ถึงจะเล็ก แต่ระดับคอเรสเตอรอล มันไม่ได้เล็กตามขนาดไข่นะเฟร้ย (ทำไงได้ ก็ของมันอร่อยนี่หว่า)
เครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้สำหรับการกินขนมครกไข่นก มีอยู่สองอย่าง ได้แก่ แม็กกี้และพริกไทยป่น เวลาจะกินก็เหยาะแม็กกี้ ตามด้วยพริกไทย โรยไปด้านบนของไข่ รอให้ผงพริกไทยเข้ากันกับน้ำแม็กกี้สักแป๊บ จากนั้นก็ใช้ไม้ปลายแหลม จิ้มลงไปบนไข่ ลากไข่ชิ้นนั้น คลุกไปกับเครื่องปรุงจนชุ่มฉ่ำ แล้วเอาเข้าปาก ฮือ...ขอบคุณสวรรค์ มันอร่อยมาก
หากไปซื้อได้จังหวะ พอดีกันกับตอนที่คนขายกำลังแคะไข่นกออกจากเตาขนมครก มันจะยิ่งชวนให้น้ำลายสอ ภาพไข่มันวาว สวยงาม กำลังร้อนได้ที่ ค่อยๆ ถูกแคะออกจากเตา จุดนั้น ฉันเป็นต้องรีบควานหาเงินในกระเป๋าอย่างว่อง อดใจไม่ได้หรอก ของมันต้องกิน
เมื่ออาทิตย์ก่อน มีธุระต้องไปติดต่อแถวสำนักงานเขตแห่งหนึ่ง ระหว่างที่นั่งรอคิว ท้องเริ่มร้อง จนฉันต้องเดินออกไปหาซื้ออะไรมากินดับความหิว โชคดีที่สำนักงานเขตแห่งนั้น อยู่ติดกันกับโรงเรียน ทำให้มีบรรดารถเข็นขายอาหาร ขนมและเครื่องดื่มทั้งหลายแหล่ พากันจอดเรียงรายอยู่ติดถนน ประมาณว่า พอถึงเวลาเลิกเรียน เด็กๆ ที่อาจจะหิวโหย สามารถมาเดินหาซื้อของกินอย่างสะดวก นี่แหละ ความ one stop service ที่แท้ทรู
ขณะที่ฉันกำลังเล็งว่าอาหาร/ขนมจากรถเข็นคันไหนบ้างที่ดูน่าสนใจ สายตาก็เจอกับขนมครกไข่นกกระทาเวอร์ชันมินิ โดยเจ้าขนมครกถูกบรรจุในถ้วยพลาสติกสีชมพูสดใสใบเล็ก ลองยื่นหน้าไปเมียงมอง เห็นว่าหนึ่งถ้วย มีไข่ทั้งหมดสี่ฟอง เป็นอะไรที่กระจุ๋มกระจิ๋ม ไม่อิ่มท้องแน่ๆ แต่ด้วยความอยากกิน สุดท้ายก็หยิบมาหนึ่งถ้วยจนได้สินะเรา จ่ายเงินคุณป้าคนขายเรียบร้อย จากนั้นก็เหยาะแม็กกี้ โรยพริกไทย ใช้เวลาในการสวาปามเพียงชั่วพริบตา ไข่จิ๋วสี่ใบก็หมดลงอย่างรวดเร็ว
จริงสิ มีอีกเรื่องที่อยากสารภาพ ก่อนหน้านี้น่ะ ฉันเคยคิดมาตลอดว่า ไข่นกกระทา เป็นไข่ไก่ชนิดหนึ่ง (ทำไมถึงเฟอะฟะขนาดนั้นได้ก็ไม่รู้สิ) เป็นการมโน (แบบผิดๆ) ไปเองไงว่า มันคือไข่ไก่สายพันธุ์นกกระทา ประมาณเดียวกับไก่พันธุ์เนื้อ ไก่พันธุ์ไข่ ไก่เบตง อะไรแบบเนี้ย แต่อันนี้คือไก่นกกระทา (เอิ่ม...หยุดสาธยายจะดีกว่าไหม ยิ่งอธิบาย ยิ่งน่าอายนะ ไม่คิดงั้นหรือ)
กว่าจะรู้ตัวว่าไข่นกกระทา คือ ไข่ของนกสายพันธุ์หนึ่ง ไม่ใช่ไข่จากไก่แต่อย่างใด ฉันก็กินไข่นกไปประมาณห้าร้อยล้านฟองเห็นจะได้ กินจนปีกจะงอกอยู่แล้ว (แกนี่มันช่างโง่ชริงๆ การกินไข่ไม่ได้ช่วยให้สมองดีขึ้นบ้างเลย ฮือฮื้อ ฮาฮ้า...โง่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง)
เมื่อเสร็จธุระในเย็นวันนั้น เดินออกมาจากสำนักงานเขต ก็เป็นเวลาเดียวกันกับช่วงโรงเรียนเลิก โอ้โห! ไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว อย่างกับนกกระจอกแตกรัง เด็กๆ ยั้วเยี้ย ได้ยินเสียงคุยกันรอบทิศ บางคนรีบเดินออกจากโรงเรียนไปหาพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในขณะที่เด็กบางคน จับกลุ่มคุยกันกับเพื่อนกระหนุงกระหนิง ส่วนเด็กสายกิน ก็พากันไปจับจองพื้นที่หน้ารถเข็น เป็นภาพความมีชีวิตชีวาอันแสนชุลมุน
เห็นแบบนั้นแล้ว รู้สึกโชคดีที่ตัดสินใจซื้อไข่นกถ้วยนั้นกินไปก่อนหน้า ไม่งั้นเหรอ อดแหงๆ เพราะคงต้องเสียสละให้เหล่าเด็กน้อยได้ซื้อกินกันก่อน โอว...คนอะไร ทั้งสวย ทั้งจิตใจดีเลยนะฉันเนี่ย
พรึ่บ! ตื่นเหอะ อยากโดนเรียกสติแบบฉุนนิดๆ เค็มเยอะๆ มั้ยเล่า
เอ่อ คุณป้าแม่ค้าคะ ขวดพริกไทยป่นกับแม็กกี้ไปอยู่ไหนแล้วล่ะคะ
Source
Comments
Post a Comment