สวัสดีวันจันทร์ เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความอยากกินป็อปคอร์น แน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึงของกินเล่นชนิดนี้ขึ้นมา สมองของฉันจะทำการเชื่อมโยง GAT/PAT แบบอัตโนมัติกับโรงภาพยนตร์ทันที เหมือนว่าเจ้าข้าวโพดคั่วและโรงหนังเป็นสิ่งของที่เกิดมาคู่กัน ไม่ต่างจากช้อนกับส้อม
ในขณะที่สายตาจ้องหน้าจอหนัง สมองรับรู้เรื่องราวที่ได้ชม มือขวาก็จ้วงลงไปในถังป็อปคอร์นใบใหญ่ แล้วหยิบเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย กินไป ดูไป วินาทีนั้นแหละที่ฉันเข้าใจคำพูดในตำนานของ Tom Cruise จากภาพยนตร์เรื่อง Jerry Maguire ที่ว่า “You complete me”
ป็อปคอร์นรสชาติที่ฉันโปรดปราน คือ รสดั้งเดิมหรือรสเค็มนั่นแหละ จากประสบการณ์ส่วนตัว การดูหนังจะสนุกขึ้นกว่าเดิมเมื่อมีถังป็อปคอร์นอยู่ในมือ กลิ่นหอมอันยั่วยวน บวกกับรสชาติเค็มของป็อปคอร์น อืม...เวลาได้กินนี่มันดีจริงๆ
เมื่อหนังเดินมาถึงตอนตื่นเต้น ชวนให้ลุ้นระทึก ฉันก็ยิ่งหยิบป็อปคอร์นเข้าปากไวขึ้นกว่าเดิม เรียกว่ายิ่งอิน ยิ่งลุ้น ยิ่งต้องเคี้ยวเพื่อคลายความตื่นเต้น (เกี่ยวกันมั้ยนั่น)
ส่วนใหญ่แล้ว ป็อปคอร์นที่ฉันซื้อมากิน มักจะหมดตอนที่หนังยังไปไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำ อ้าว! ทำไมหมดไวเยี่ยงนั้นล่ะ ก็เพราะกินมันตั้งแต่ตอนที่เค้าฉายหนังตัวอย่างเลยไงล่ะ ตื่นตาตื่นใจกับหนังที่ใกล้จะเข้าฉายหลายต่อหลายเรื่อง มือก็จกป็อปคอร์นกินอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือควานหาลงในกระป๋องแล้วพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวโพดคั่วทั้งหมดหายแว้บ ลงไปนอนเรียงตัวอยู่ในท้องเรียบร้อยแล้ว
ครั้งหนึ่งกับการกินป็อปคอร์นที่ฉันจำได้ไม่ลืม สั่งรสดั้งเดิมเหมือนทุกที แต่กลับได้รสอื่นมาแทน มารู้ตัวก็ตอนที่เข้าโรงหนังและหยิบป็อปคอร์นใส่ปาก โอ๊ะ! นี่มันป็อปคอร์นรสอะไรกันฟระ ณ จุดนั้น ตกใจนิดๆ แต่ผิดหวังค่อนข้างมาก ตกใจเพราะมันไม่ใช่รสชาติที่คุ้นลิ้นเอาซะเลย ส่วนผิดหวังก็เนื่องมาจากรสชาติอีกนั่นแหละ รู้สึกมันไม่ใช่ทาง มันไม่ฟิน แถมกินไปก็แอบเคืองคุณน้องพนักงานคนตักไปด้วย
จนกระทั่งหนังจบ ลุกออกจากโรง ความขุ่นเคืองใจนั้นก็ยังคงอยู่ ทำให้ฉันต้องเดินกลับไปที่บูธขายขนมขบเคี้ยวอีกครั้ง เปล่าหรอก ไม่ได้จะกลับไปต่อว่าคุณน้องพนักงานแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการรู้ว่าเจ้าป็อปคอร์นรสปะแล่มที่กินเข้าไปนั้น มันคือรสชาติอะไรกันแน่
มองไปตรงตู้กระจกใสที่บรรจุป็อปคอร์นเอาไว้ จึงได้เข้าใจว่าเหตุใดฉันจึงได้กินป็อปคอร์นรสชาติปะแล่ม นั่นเป็นเพราะเจ้าป็อปคอร์นรสชีสที่ได้ผิดมา มันอยู่ติดกันกับรสดั้งเดิมเจ้าประจำของฉันไง คุณน้องพนักงานอาจจะยุ่งหรือสับสนจนจำออเดอร์ลูกค้าผิดไป เห็นดังนั้นแล้ว เอาล่ะ ลูกค้าอย่างฉันเลยพอจะยกโทษให้ได้ ไม่โกรธคุณน้องดีกว่า
เมื่อการตามล่า ค้นหาความจริงเรื่องข้าวโพดคั่วจบสิ้นลง ฉันจึงเดินออกจากโซนโรงหนังแบบเซ็งๆ จำไม่ได้แล้วว่าหนังที่ดูในวันนั้น สนุกถูกใจมากน้อยแค่ไหน แต่อรรถรสในการดูหนังน่ะ ลดลงไปประมาณ 10% อันเนื่องมาจากป็อปคอร์นรสแปลกลิ้น
หลังจากเหตุการณ์ป็อปคอร์นรสปะแล่มในครั้งนั้น ทำให้เกือบทุกครั้งเวลาเดินไปซื้อป็อปคอร์นก่อนเข้าโรงหนัง ฉันจะต้องจับตาดูให้แน่ใจว่าคุณน้องพนักงาน ตักรสชาติถูกต้องตามที่ฉันต้องการ ไม่มีอีกแล้วที่จะทำให้ต่อมรับรสผิดหวัง
แหม...พูดแล้วก็อยากกินยิ่งกว่าเดิมอีกเนี่ย ว่าแต่ถ้าเดินไปซื้อป็อปคอร์นมากินโดยไม่เข้าไปดูหนัง อรรถรสในการกินมันจะลดลงไปบ้างมั้ยนะ ก็ที่ผ่านมา เคยกินแต่ในโรงหนังที่มีแสงสลัว ถ้าเปลี่ยนมากินตอนแสงสว่างจัดจ้า ต่อมรับรสจะรู้สึกแปลกที่แปลกทางไปบ้างหรือไม่
สงสัยคงต้องลองพิสูจน์ดูสักครั้ง
Source
ภาพประกอบ: Photo by Megha Mangal from Pexels
Comments
Post a Comment