คูปองซีเปีย


กลางเดือนที่ผ่านมา เมื่อฉันเดินเข้าร้านหนังสือใกล้บ้าน เป็นอย่างเคยที่จะต้องได้หนังสือสักเล่มสองเล่มติดไม้ติดมือกลับมาด้วย แต่ที่พิเศษ คือ ช่วงนั้นทางร้านกำลังจัดโปรโมชันมอบส่วนลดให้ลูกค้าเมื้อซื้อหนังสือถึงยอดที่กำหนดไว้

จากการซื้อหนังสือคราวนั้น ทำให้ฉันได้รับคูปองส่วนลดจำนวน 100 บาท เป็นจำนวนทั้งสิ้นสองใบ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อหนังสือครั้งต่อไป อู๊ย...ตอนที่ได้คูปองมานะ ตื่นเต้น กรีดร้องอยู่ในใจอย่างเริงร่า อารมณ์ประมาณ เดี๋ยวตรูจะซื้อหนังสือให้จุใจไปเล้ย...ยยย

สัปดาห์ต่อมา ฉันแวะเข้าร้านหนังสืออีกครั้ง ได้หนังสือที่เล็งไว้คราวก่อน (แต่หักห้ามใจไม่ให้ซื้อ) เป็นจำนวนสามเล่ม พร้อมกับคูปองส่วนลดแบบเดิมอีกหนึ่งใบ อิอิ ดีจัง ฉันยื่นมือไปรับคูปองจากคุณน้องพนักงานด้วยอาการลิงโลดยิ่งกว่าเก่า

เมื่อก้มมองคูปองส่วนลดในมือ ตัวตนภาคมีสติ (แม้จะมีอยู่น้อยนิด) ก็ส่งเสียงเตือนอยู่ในใจว่าไม่ควรตกเป็นทาสการตลาดเยี่ยงนี้อีกแล้ว ทว่า การจะต้านทานอำนาจแห่งคูปองส่วนลดจำนวน 100 บาทนั้น ดูจะเป็นไปได้ยากเต็มที

ในยามที่ฉันกวาดตามองเหล่าหนังสือที่เรียงรายอยู่บนชั้นวางอย่างเป็นระเบียบ ราวกับจะเห็นภาพหนังสือเหล่านั้นกำลังกวักมือ พร้อมทั้งโฆษณาเชิญชวนว่า “ซื้อพวกเราเถอะ อย่าลังเลใจอยู่เลย ซื้อตอนนี้ ได้ลดทันที 100 บาทเชียวนะ” รู้สึกได้ถึงควันแห่งกิเลสที่พวยพุ่งขึ้นมาเลยทีเดียว

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ฉันก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสในใจ เดินเข้าร้านประจำและได้หนังสือกลับมาอีกสองเล่ม เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย คุณน้องพนักงานที่ตอนนี้จดจำหน้าลูกค้าขาประจำอย่างฉันได้แล้ว จึงยื่นคูปองแบบเดิมมาให้อีกหนึ่งใบ พร้อมรอยยิ้มและบอกกล่าวกับฉันว่า “พี่ได้คูปองอีกหนึ่งใบนะคะ”

อ้อ! ลืมบอกไปว่าคูปองนี้น่ะ มีอายุการใช้งานจนถึงแค่สิ้นเดือนสิงหาคมเท่านั้น แปลว่าถ้าอยากได้ส่วนลดที่มากกว่าปกติทั่วไปเวลาซื้อหนังสือ ก็ต้องตัดสินใจซื้อก่อนหมดเดือนนี้นั่นแหละ

แม้จะดีใจแค่ไหนกับคูปองที่ได้มา แต่เห็นทีว่าคงต้องหยุด หยุดการซื้อเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ ก็คูปองสามใบก่อนหน้านั้นน่ะ ทำเอาฉันตัวซีด แทบจะกลายร่างเป็นแผ่นกระดาษแห้งๆ เข้าไปทุกที และงบสำหรับการซื้อหนังสือประจำเดือนนี้ ก็ได้อันตรธานไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว

อืม...นี่คงไม่ใช่คูปองส่วนลดธรรมดาซะแล้ว แต่น่าจะเป็นคูปองซีเปีย แบบว่าได้มาที สูบเลือดสูบเนื้อ ทำเอากระเป๋าแห้ง ตัวซีดไปตามระเบียบ

“ชิชะ! อย่าได้กล่าวโทษคูปองเลย ทาสการตลาดเอ๋ย” นั่นคือคำพูดจากตัวตนฝ่ายร้ายที่กำลังเกาะบ่าเยาะเย้ยอย่างสาแก่ใจ

Source

Comments