วันนี้ขอย้อนอดีต กลับไปสู่ช่วงวัยเรียนซะหน่อย ในสมัยนั้น ภาพคุ้นตาที่จะได้เห็นเมื่อเดินเข้าห้องเรียน ได้แก่ กระดานดำ โต๊ะไม้-เก้าอี้ไม้สำหรับนักเรียนที่เรียงรายเป็นแถว รวมไปถึงโต๊ะที่นั่งของครูผู้สอนที่ตั้งอยู่ด้านหน้าห้อง
ช่วงเรียนชั้นมัธยมต้น เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนจะมีที่นั่งประจำของตัวเอง ทำให้ช่วงเวลานั้น ฉันและเพื่อนหลายคนในห้อง มักจะเก็บบรรดาหนังสือเรียน รวมไปถึงสมุดจดต่างๆ เอาไว้ใต้โต๊ะของตัวเอง
ข้อดีของการเก็บสมุดและหนังสือเรียนไว้ใต้โต๊ะ จะช่วยผ่อนน้ำหนักของกระเป๋านักเรียนที่ต้องถือมาโรงเรียนได้มากเชียวล่ะ เมื่อมีข้อดี มันก็ย่อมต้องมีข้อเสีย ซึ่งข้อเสียของการทิ้งหนังสือไว้ที่โรงเรียน นั่นก็คือเสี่ยงต่อการสูญหาย บางครั้งหนังสือของเราอาจโดนมือดีจากต่างห้องมาหยิบไปโดยไม่บอกกล่าว
โต๊ะนักเรียนในสมัยนั้น ถือได้ว่ามีความหลากหลาย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสภาพภายนอกของโต๊ะไม้แต่ละตัว จะได้เห็นร่องรอยการผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวขรุขระไม่เรียบเนียนของโต๊ะ รอยปากกา ดินสอ น้ำยาลบคำผิด หรือแม้กระทั่งการสลักโต๊ะก็มีให้เห็นอยู่ประปราย
ร่องรอยที่ปรากฏบนโต๊ะเหล่านั้น บางครั้งก็เป็นพวกเนื้อเพลงที่เป็นเพลงดังของยุค คำภาษาอังกฤษที่อาจจะได้เรียนในชั่วโมงเรียน สูตรในวิชาเคมี คำด่าก็มีบ้าง ชื่อเจ้าของโต๊ะ และสิ่งที่เห็นจะขาดไม่ได้ คือ การเขียนชื่อตัวเองและแฟนลงไปบนโต๊ะ ถ้ารักกันมากก็สลักมันลงไปซะเลย ให้เนื้อไม้บนโต๊ะเป็นพยานแห่งความรักในครั้งนั้น (เขียนมาถึงตอนนี้แล้ว ฉันเริ่มสงสัยเล็กน้อยว่าจะมีคู่รักคู่ไหนบ้างไหมที่ยังคงคบกันอยู่จนถึงปัจจุบัน)
กระดานดำและชอล์ก เป็นอุปกรณ์ในห้องเรียนที่ฉันชอบมากที่สุด อืม...แต่ทำไมคนถึงเรียกว่ากระดานดำล่ะ ในเมื่อก็เห็นอยู่ว่ากระดานเป็นสีเขียว หรือกระดานในสมัยโบราณคงเป็นสีดำมั้ง
เชื่อว่านักเรียนทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาแอบเล่นกระดานดำกันบ้างแหละ อาศัยช่วงระหว่างคาบเรียน หรือหลังจากเลิกเรียนแล้ว ออกมายืนหน้าชั้น จากนั้นก็หยิบชอล์กขึ้นมาเขียนอะไรไร้สาระเรื่อยเปื่อย
ตรงช่องด้านล่างกระดานดำจะเป็นที่วางชอล์ก เมื่อก้มดูช่องที่ว่านี้ จะเจอทั้งชอล์กสีขาวและชอล์กสีสันต่างๆ วางไว้อย่างกระจัดกระจาย ชอล์กบางแท่งก็สั้นแสนสั้น ในขณะที่บางแท่ง เหมือนกับเพิ่งถูกหยิบใช้งานได้ไม่นาน เพราะยังคงสภาพเหมือนใหม่
เมื่อมีกระดานดำกับชอล์ก ก็ต้องมีแปรงลบกระดาน จำได้ว่าพอถึงเวรทำความสะอาดประจำสัปดาห์ นักเรียนที่เป็นเวรจะต้องแบ่งหน้าที่กันเก็บกวาดห้องเรียนให้สะอาดเรียบร้อย และการทำความสะอาดแปรงลบกระดาน ก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่นักเรียนจะต้องทำ
จะทำให้แปรงลบกระดานสะอาดขึ้นมาได้ยังไงน่ะเหรอ ง่ายมาก ก็แค่หยิบมันขึ้นมา แล้วโน้มตัวไปนอกหน้าต่าง จับแปรงเคาะกับผนังห้องเรียนด้านนอก เคาะมันเข้าไปจนเห็นฝุ่นชอล์กสีขาวที่เกาะสะสมอยู่บนตัวแปรงฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ เคาะไปเรื่อยๆ จนฝุ่นชอล์กเริ่มบางตา เป็นอันเสร็จพิธี
เมื่อถึงเวลาที่ครูหยิบแปรงลบกระดานที่ผ่านการทำความสะอาดเรียบร้อยมาใช้งานอีกครั้ง มันจะไม่ค่อยทิ้งร่องรอยสีขาวเป็นปื้นบนกระดานดำมากนัก ดูแล้วสะอาด สบายตากว่าเดิม
สำหรับฉันแล้ว แท่งชอล์กที่ผ่านการใช้งานจนสั้นกุด แปรงลบกระดานที่มีฝุ่นชอล์กจับหนาเตอะ รอให้เด็กๆ มาเคาะทำความสะอาด รวมไปถึงโต๊ะนักเรียนที่เต็มไปด้วยข้อความระบายความในใจ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ห้องเรียนมีชีวิตชีวา
เป็นความคลาสสิกในแบบที่ปากกากลิ่นฉุนและกระดานไวท์บอร์ดสีขาวไม่อาจมาทดแทนได้ เนื่องจากอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากการใช้งาน มันไม่ละมุนเท่าภาพห้องเรียนแบบดั้งเดิมเอาซะเลย
Source
ภาพประกอบ: Photo by Dids from Pexels
Comments
Post a Comment