อาหารเกาหลีและ KT Tunstall


ครั้งหนึ่งขณะนั่งอยู่ในรถที่กำลังแล่นไปบนถนนในเมือง San Diego โดยเป้าหมายของสมาชิกทั้งสี่คนภายในรถ ซึ่งประกอบไปด้วยเพื่อนชาวเกาหลีสองคน ฉันและเพื่อนคนไทยอีกหนึ่งคน คือการมุ่งหน้าไปร้านอาหารเกาหลีแห่งหนึ่งที่เพื่อนทั้งสองแนะนำว่าอาหารอร่อย และชักชวนให้พวกเราชาวไทยไปลองกิน

ในระหว่างที่สี่ชีวิตกำลังเฮฮา พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่นั้น จู่ๆ สถานีวิทยุที่เพื่อนเปิดฟังในรถก็เล่นเพลงหนึ่งขึ้นมา เมื่อเพื่อนชาวเกาหลีเงี่ยหูฟังและจับท่วงทำนองได้ ก็พูดขึ้นมาว่า เขารู้จักเพลงนี้นะ มันเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เขาเคยดูมาก่อน จากนั้นเพื่อนก็พยายามนึกชื่อหนังเรื่องนั้นให้ได้

เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีล่ะมั้ง เจ้าเพื่อนคนนี้ก็นึกออก แล้วพูดขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจว่า รู้แล้วล่ะ นี่มันเพลงประกอบเรื่อง The Devil Wears Prada ไงล่ะ หลังจากนั้น มันก็เปล่งเสียงร้องไปตามท่วงทำนองที่กำลังบรรเลงอย่างสนุกสนาน สร้างความครึกครื้นให้กับสมาชิกอีกสามคนในรถกันถ้วนหน้า

แม้ฉันจะไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ตามที แต่ก็พอจะรู้ว่ามี Meryl Streep และ Anne Hathaway รับบทนำ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอก สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือเพลง Suddenly I See ที่เพื่อนเกาหลีกำลังร้องให้ฟังนี่แหละ

ขึ้นต้นเพลงมาก็ดึงความสนใจฉันไปเลย “Her face is a map of the world, is a map of the world.” ฟังแล้วประหลาดใจพอสมควร แบบว่าคนอะไรจะหน้าตาเป็นแผนที่ฟระ พอฟังท่อนต่อมาของบทเพลงก็ค่อยโล่งใจหน่อยที่ได้ยินว่า “You can see she’s a beautiful girl, she’s a beautiful girl.” อ๋อ...แสดงว่าที่บอกว่าหน้าเป็นแผนที่นั้น แปลได้ว่าเป็นคนสวยสินะ

อืม...รู้อย่างนี้แล้ว เกิดไอเดียบรรเจิดเลยล่ะ ต่อไปจะชมใครว่าสวย ฉันจะไม่พูดว่าสวยแล้วนะ คงต้องบอกว่า “เธอ เธอ หน้าตาเธอแผนที่มากเลยอ่ะ” เปรี้ยง! โดนถีบออกมาทันใด เพราะคนโดนชมไม่สามารถเข้าถึงการเยินยอแบบนี้ได้

กลับมาที่บทเพลง Suddenly I See ต่อเหอะ นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้จักเพลงนี้ และยังคงจำความรู้สึกในวันนั้นได้เป็นอย่างดี หลังจากฟังเพลงจนจบ ความตื่นเต้นที่กำลังจะได้กินอาหารเกาหลี ทั้ง bibimbap เอย bulgogi เอย ดูจะลดระดับลงเล็กน้อย เนื่องจากฉันหันไปติดใจบทเพลงเข้าซะแล้ว

แต่...อย่าเข้าใจผิดว่าฉันจะไม่เอ็นจอยไปกับอาหารมื้อนั้น มันอร่อยมาก เรียกว่าเป็นการเปิดโลกแห่งอาหารเกาหลีเลยก็ว่าได้ ไหนจะได้ลองกินทั้งข้าวยำ ได้อร่อยจนหัวเหม็นไปกับอาหารปิ้งย่างแล้ว ยังได้ลิ้มลอง  pajeon หรือพิซซาเกาหลีอีกด้วย ซึ่งเจ้าพิซซาที่ว่านี้ เป็นการนำแป้งไปทอดพร้อมกับต้นหอม ต้องยอมรับเลยว่าจานนี้เด็ด ขนาดฉันที่ปกติเป็นคนไม่ชอบต้นหอม ลิ้มรสเมนูนี้เข้าไปยังติดใจเลย อ้อ! เกือบลืม วันนั้นยังได้ลอง soju เป็นครั้งแรกอีกด้วย

หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้ออาหาร กลับมาบ้าน ฉันก็ยังคงอยากฟัง Suddenly I See หลังจากทำการค้นหาข้อมูล ได้รู้จักนักร้องเจ้าของเสียงเพลง นั่นก็คือ KT Tunstall ก็เป็นอันสบายใจ ประมาณว่าเสร็จสิ้นภารกิจ บรรลุเป้าหมายของสิ่งที่ตามหา เป็นอันว่า เย็นวันนั้น ฉันเลยนั่งผึ่งพุงจากการกินอาหารอร่อยมาจนอิ่มแปร้ และฟังเพลงนี้แบบฟินสุดๆ

ต่อมา ฉันได้รู้จักกับอีกหนึ่งเพลงที่ออกมาก่อนหน้า Suddenly I See ได้แก่ เพลง Black Horse and the Cherry Tree ซึ่งฉันประทับใจไปกับจังหวะของเพลง ยิ่งเมื่อได้ดูเวอร์ชันที่ KT Tunstall แสดงสดเอาไว้ และได้เห็นขั้นตอนการผลิตท่วงทำนองเพลงออกมาในแต่ละท่อน ยิ่งตื่นตาตื่นใจ แถมฉันยังให้คะแนนชื่นชอบเป็นพิเศษเวลาได้เห็นลักยิ้มข้างขวาของ KT ด้วยนะ ดูแล้วน่ารักดี

ในความเห็นส่วนตัว เมื่อฟังเพลงของ KT Tunstall ฉันมักจะนึกไปถึง Sara Bareilles และบทเพลงโด่งดังของเธออย่าง Love Song ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะฟังแล้วให้ vibe คล้ายคลึงกันล่ะมั้ง (และใช่ค่ะ หากใครยังจำได้ Love Song ก็คือเพลงโปรดที่ฉันเคยเล่าไปแล้วว่าตัวเองชอบเปิดฟังเวลาถูบ้านนั่นแหละ)

ทุกวันนี้ เวลาได้ยิน Suddenly I See สมองฉันจึงมักจะทำการเชื่อมโยง GAT/PAT โดยอัตโนมัติ จะเห็นภาพ KT Tunstall เล่นกีตาร์ลอยมาในหัว พร้อมกับรสชาติของพิซซาเกาหลีสุดอร่อย ข้าวยำ ปิ้งย่างหัวเหม็น พร้อมเครื่องเคียงร้อยแปดพันเก้าอย่างที่เพื่อนอุตส่าห์พาไปกินในครั้งกระนู้น

เพลงก็เพราะ ท้องก็อิ่ม ไม่มีอะไรจะดีและฟินไปมากกว่านี้อีกแล้ว

Source
ภาพประกอบ: Photo by Grevin Kivi from Pexels

Comments