Full Moon Songs


จากบทความก่อนหน้า ได้พูดถึงการไปเที่ยวงาน Full Moon Partyเกาะพะงัน ซึ่งเป็นการไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน (เรียกว่าหลวมตัวไปซะมากกว่า) ครั้งนี้จะมากล่าวถึงบทเพลงประทับใจที่ได้ฟังจากงานในครั้งนั้น

อย่างที่เล่าไปแล้วว่าร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มเรียงเป็นแถวยาวไปตามชายหาด แต่ละร้านก็จะมีธีมของตัวเอง บางร้านเปิดเพลงป็อป บางร้านร็อก บางร้านเพลงยุคเก่า เป็นต้น ลูกค้าชอบเพลงแนวไหน ถูกใจร้านไหนก็ไปเลือกนั่งกันได้ตามแต่ความชอบ

เพลงแรกที่ทำให้ฉันชอบมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ How You Remind Me จาก Nickelback วงร็อกจากแคนาดา สิ่งที่ทำให้ติดใจบทเพลงร็อกหนักแน่นแบบนี้ เป็นเพราะตอนนั้น เมื่อทางร้านเปิดเพลงนี้ขึ้นมา ทุกคนในที่นั้น ไม่เว้นแม้แต่เลขที่ 1 เพื่อนฉัน ร้องตามกันได้หมด ประหนึ่งมันคือเพลงชาติ จะมียกเว้นก็เพียงมนุษย์ผู้หนึ่งที่นั่งทำหน้าเอ๋อๆ อีหยังวะ อยู่คนเดียว (ใครล่ะ ก็ฉันไง)

แว่บนั้นก็ได้แต่งงตัวเองว่า นี่ฉันกำลังพลาดอะไรไปหรือเปล่า หรือไม่ก็อันตัวเรานี้ มัวไปมุดหัวอยู่แห่งหนใด ทำไมถึงไม่รู้จักเพลงนี้ฟระ แล้วทำไมทุกคนต้องร่วมใจ เปล่งเสียงร้องอย่างหนักหน่วง ทรงพลังกันขนาดเน้ ได้แต่นั่งงงท่ามกลางดงฝรั่งแบบเหวอๆ ไป

มาถึงเพลงที่สอง ก็ยังคงความร็อกอยู่เหมือนเดิมกับเพลง Hanging by a Moment จาก Lifehouse เอาอีกแล้วค่ะท่านผู้อ่าน เกิดอาการเอ๋อกลางวง เพลงนี้ก็ไม่รู้จัก ไม่คุ้นหู แล้วทำไมทุกคนร้องได้อีกแล้ว หันไปมองเพื่อน เห็นมันนั่งฮัมอย่างอินเลย นี่ตรูต้องพลาดอะไรไปอีกแน่ๆ ไม่ได้การล่ะ กลับบ้านไป ต้องไปหาเพลงฟังอย่างด่วน อัพเดทคลังสมองตัวเองซะหน่อย เดี๋ยวตกเทรนด์ (โถ...นี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าแกตกไปแล้ว)

เมื่อเปลี่ยนมานั่งฟังเพลงร้านต่อไป ฟังไปพร้อมกับค่อยๆ จิบเครื่องดื่มไปด้วย ผ่านไปสักพักใหญ่ ฉันเริ่มปวดฉี่ เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างกำลังนั่งทำธุระส่วนตัวอยู่นั้น หูก็ได้ยินเสียงเพลงจาก J. Lo เออ! ดีหน่อย เพลงนี้ฉันรู้จัก

สำหรับเพลงที่ว่า คือ Ain’t It Funny ที่เป็นแบบ Murder Remix มี Ja Rule และ Caddillac Tah มาร่วมร้องด้วย ก่อนหน้านี้ เวลาเห็นเพลงนี้ตามรายการ MTV ฉันรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ

พอมาได้ยินอีกครั้ง ทำไมตกหลุมรักเพลงนี้ขึ้นมาได้ก็ไม่รู้สิ สงสัยเป็นเพราะพลังจากจันทร์เต็มดวงแน่ๆ รู้สึกได้ถึงการหยอกกันเล่นๆ ในเพลง ตรงท่อนที่ว่า

“Baby, is that you're girlfriend
I got my boyfriend
But maybe we can be friends
La da da da da da”

ฟังแล้วมันจั๊กจี้หัวใจดีนะ เอิ่ม...อย่ามัวแต่จั๊กจี้บ้าบออะไรอยู่ รีบทำธุระให้เสร็จดีกว่า เดี๋ยวก็เพลินจนตกส้วมหรอกแก 555 นี่เป็นบทเพลงที่เปิดโลกแห่งการฟังในแบบใหม่สำหรับฉันเลยก็ว่าได้ ฟังในห้องน้ำแล้วเกิดชอบใจในบทเพลง

ทั้งหมดนี้ เป็นสามบทเพลงที่เชื่อมโยงฉันเข้ากับความทรงจำเมื่อครั้งไปเยือนเกาะพะงันเป็นครั้งแรก (และยังคงเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต) ได้ไปสัมผัส Full Moon Party ด้วยตัวเอง และได้ติดใจบทเพลงใหม่ที่ไม่เคยได้ยิน และไม่เคยคิดว่าจะชอบ

โอ้...นี่คงเป็นลิขิตแห่งจันทรา นำพาฉันให้มารู้จักกับบทเพลงพวกนี้สินะ

Source

Comments