หนึ่งในนิสัยที่ติดตัวตั้งแต่เมื่อครั้งฉันยังเป็นเด็ก คือ ชอบจับเม็ดนุ่น ไม่รู้ว่ามีใครเป็นอย่างฉันบ้างไหม ส่วนใครที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไร คงต้องอธิบายเพิ่มเติมกันหน่อยล่ะนะ
จะจับเม็ดนุ่น สิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ นั่นก็คือ หมอนยัดนุ่นนั่นเอง เพราะฉะนั้น หากหมอนของคุณเป็นหมอนที่ยัดไส้ด้วยใยสังเคราะห์ คงทำกิจกรรมจับเม็ดนุ่นไม่ได้
หมอนยัดนุ่น จะว่าไปก็น่าจะกลายเป็นสิ่งของจากยุคโบราณเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะหมอนส่วนใหญ่ที่พบในปัจจุบัน หากไม่ใช่หมอนพวกใยสังเคราะห์ ก็คงเป็นหมอนสุขภาพ อะไรแนวนี้กันทั้งนั้น
มนุษย์ผู้เสพติดการจับเม็ดนุ่นอย่างฉัน เวลาได้เจอหมอนยัดนุ่น จะออกอาการดีใจ กระดี๊กระด๊า นิ้วมือเริ่มกระดุ๊กกระดิ๊ก เรียกร้องอยากเข้าไปสัมผัสหมอน พร้อมทั้งควานหาเม็ดนุ่นให้มันมือไปเลย
ความสนุกของการจับเม็ดนุ่นในหมอนนั้น อยู่ตรงที่เมื่อหาเม็ดนุ่นเจอ ฉันจะใช้เล็บจิกลงไปที่เม็ดนุ่นเม็ดนั้น ใส่น้ำหนักในการจิกจนกระทั่งเม็ดนุ่นแตก บางครั้งจะได้ยินเสียงแตกดังแป๊ะๆ ให้รู้สึกฟินในอารมณ์ ประหนึ่งลุล่วงภารกิจไปหนึ่งอย่าง จากนั้นก็ควานหานุ่นเม็ดต่อไปมาจิกต่อ
แต่ก่อนตอนยังเด็ก ทุกครั้งที่เข้านอน ข้างกายฉันจะมีหมอนข้างประจำตัวอยู่ด้วยเสมอ หมอนข้างใบนั้น ไม่ต้องบอกก็น่าจะพอเดากันได้แหละนะว่ายัดไส้ด้วยนุ่น เวลานอน ฉันจะต้องจับหมอน ควานหาเม็ดนุ่น ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะง่วง
เจ้าหมอนข้างที่แสนรักอยู่ข้างกายฉันมาเป็นเวลานาน ผ่านการใช้งานอย่างโชกโชน เต็มไปด้วยร่องรอยจากน้ำบ่อน้อยที่เลอะตอนหลับ (น่าอายมั้ยเนี่ย ยังจะกล้าเล่าเนอะ) อีกทั้งเนื้อผ้าที่เริ่มเปื่อย ดังนั้น เจ้าหมอนข้างจึงเต็มไปด้วยรอยปะจากเศษผ้าหลากสไตล์ หลายสีสันฝีมือแม่ของฉัน โดยแม่มักจะเรียกหมอนข้างใบโปรดของฉันว่า หมอนเน่า
ฉันรักเจ้าหมอนเน่ามาก จะไปนอนไหนก็ต้องแบกติดตัวไปด้วย จากหมอนสภาพสมบูรณ์ สวยงาม โดนฉันนอนกอดและจับเม็ดนุ่น เนื้อผ้าก็ค่อยๆ นิ่มและเปื่อยลงเรื่อยๆ จนแม่ต้องผูกปลายข้างหนึ่งของหมอนเป็นปมเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หมอนขาดและเปื่อยไปมากกว่าที่เป็นอยู่
จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่คงทนไม่ไหวอีกต่อไป แอบเอาเจ้าเพื่อนยากของฉันไปทิ้ง โอย...ใจจะขาด จำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้จนตาบวม คร่ำครวญถึงของรัก my precious พร้อมทั้งงอนแม่ไปหลายวัน ชีวิตที่ขาดหมอนเน่า มันช่างเปลี่ยวเหงา นิ้วมือก็เคว้งคว้าง ไม่รู้จะจับอะไร
หลายปีต่อมา ฉันได้รับหมอนยัดนุ่นใบใหม่ อู๊ย...แสนจะดีใจยิ่งนัก ความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน กลับมาทันที นิ้วมือกระดิก เตรียมควานหาเม็ดนุ่น คืนนั้น กว่าจะหลับ ฉันนอนจับเม็ดนุ่นไปจนเมื่อยมือเลยล่ะ
ทุกวันนี้ เจ้าหมอนสีเขียวยัดนุ่นก็ยังคงอยู่เคียงข้างฉัน คอยเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นสิ่งที่ทำให้นิ้วมือมีหลักยึดเหนี่ยว เป็นเพื่อนกล่อมนอนในทุกค่ำคืน แม้สภาพของมันจะเก่า ไม่สวย สดใสดังเช่นวันวาน แต่ฉันก็รักและผูกพันกับมันไม่เปลี่ยนแปลง
สิ่งของบางอย่าง ในที่นี้คงต้องพูดว่า หมอน (เน่า) บางใบ มีคุณค่าทางจิตใจอย่างประเมินค่ามิได้
Source
Comments
Post a Comment