ก่อนอื่นต้องบอกว่า นี่เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ฉันตัดสินใจซื้อมาอย่างง่ายดายเพราะติดใจหน้าปก อะไรจะอ่อนหวาน ละมุนละไมสายตาได้ขนาดนี้ ทั้งโทนสีพาสเทลดูอบอุ่น ไหนจะภาพของเรือนกระจกสีขาวใส ดึงดูดใจยิ่งขึ้นอีก
ในม่านกาล ผลงานจากราตรีนิมิต เริ่มเรื่องโดยไลลา หญิงสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันจากยุคปัจจุบันที่มักจะฝันเห็นภาพเรือนกระจกสีขาว พร้อมเสียงปริศนาของชายหนุ่มผู้หนึ่งมาเป็นเวลาเนิ่นนาน และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องดั้นด้นมายังประเทศบ้านเกิดของมารดา เพื่อมาตามหาคำตอบว่าเหตุใดเธอจึงรู้สึกผูกพันกับเรือนกระจกแห่งนั้นและเสียงของชายหนุ่มในฝันผู้นั้น
ความปรารถนาของเธอที่จะตามหาสถานที่ในความฝัน เข้าใกล้ความจริงไปทุกขณะ เมื่อได้ค้นพบว่า แท้จริงแล้วสถานที่แห่งนั้นคือวังสวนกระจก ขณะที่ไลลากำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าวัง โดยไม่คาดคิด เธอก็ประสบอุบัติเหตุซะก่อน เฮ้อ! อ่านมาถึงตรงนี้ ฉันยังเสียดายแทนเลย อะไรกันนี่ อีกนิดเดียวก็จะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เฝ้ารบกวนจิตใจมาเนิ่นนานอยู่แล้วเชียว ทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วยฟระ
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น บวกกับความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าก่อนสติของเธอจะหลุดลอยไป รวมทั้งอาจเป็นเพราะพรหมลิขิตที่ขีดเส้นทางเดินเอาไว้แล้ว ทำให้เธอย้อนเวลากลับไปยังอดีตเมื่อหกสิบกว่าปีก่อนในรูปของวิญญาณ และได้พบกับหม่อมเจ้าดิเรกภาสกร ภานุวรรธน์ หรือท่านชายภาค ชายหนุ่มมาดนิ่งแสนนิ่ง ผู้เป็นเจ้าของวังสวนกระจก
ท่านภาค พระเอกของเรื่อง เป็นท่านชายสายติสท์ที่แท้ทรู ถูกส่งไปเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสพร้อมหม่อมเจ้าวัชรธรากร ภานุวรรธน์ หรือท่านชายเพชร ผู้เป็นพี่ชาย (ต้องขออภัยล่วงหน้าที่ไม่ได้เขียนราชาศัพท์ที่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีความถนัดเอาซะเลย จะใช้สุ่มสี่สุ่มห้าก็กลัวจะเขียนผิดน่ะสิ คงต้องขออนุญาตใช้คำธรรมดาสามัญในการเขียนต่อจากนี้) ในขณะที่ผู้เป็นพี่ชายเลือกเรียนแพทย์ ท่านภาคกลับเลือกเรียนศิลปะ
งานประจำของท่านภาค คือ การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสอนการวาดภาพ และนอกจากเป็นอาจารย์แล้ว ท่านภาคยังมีรายได้จากการเก็บค่าเช่าที่ ยังค่ะ ความรวยของท่านชายยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีมรดกเก่าที่ได้รับพระราชทานจากท่านพ่ออีก รวยจริงๆ
เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นอย่างไร คงต้องไปตามอ่านกันเอาเอง ขอบอกรายละเอียดต่างๆ เพิ่มอีกเล็กน้อย อย่างเช่น ขณะที่ไลลาย้อนกลับไปในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ นั้น นอกจากท่านภาคที่สามารถเห็นวิญญาณสาวสวยอย่างเธอแล้ว ยังมีชายหนุ่มจากยุคอดีตอีกผู้หนึ่งที่มองเห็นเธอได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือ หม่อมราชวงศ์รวิสุต ชโนทัย ชายผู้มีนิสัยรื่นเริง รักสนุก เข้ากันกับไลลาได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าท่านภาคจะมีบุคลิกนิ่ง พูดน้อย มีโลกส่วนตัวสูง ตรงกันข้ามกับไลลา ผู้ร่าเริง แก่นเซี้ยว แต่ก็เป็นความต่างที่สามารถเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ถึงพระเอกจะดูเงียบขรึม แต่การกระทำและคำพูดจากหลายฉากหลายตอน ทำเอาฉันประทับใจและตื้นตันไปกับผู้ชายสายเงียบแต่มีรักแท้มั่นคงผู้นี้ซะเหลือเกิน มีอยู่ฉากหนึ่ง ถึงกับต้องหยุดอ่านเพื่อไปซับน้ำตากันเลยทีเดียว
คุณราตรีนิมิต เป็นนักเขียนที่มีภาษาสละสลวย อ่านแล้วดูละเมียด สมกับโทนของเรื่องที่เป็นแนวย้อนยุค ทำให้ผู้อ่านได้เพลินไปกับการบรรยายเรื่องราว โดยเฉพาะฉากระหว่างพระ-นาง ฉันสัมผัสได้ถึงความสบายใจในยามทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ความห่วงใยของนางเอกผ่านคำพูดและท่าทางที่แสดงออก รวมไปถึงซึ้งใจไปกับความรักมากมายของพระเอกที่มอบให้นางเอก
ต้องสารภาพว่า ความจริงฉันซื้อ ในม่านกาล มาเก็บสะสมไว้ได้ระยะหนึ่งแล้ว (นี่หมายถึง “การดองหนังสือ” ในแบบสุภาพ) มารู้สึกอยากอ่านเรื่องนี้ก็ตอนที่นักเขียนออกหนังสือเล่มล่าสุด “นิรันดร์บรรจบ” ที่เป็นภาคต่อของในม่านกาลนี่แหละ แบบอ่านคำโปรยของนิรันดร์บรรจบแล้ว เกิดอาการยุบยิบในหัวใจ ต้องรีบแจ้นไปซื้อมาเก็บไว้ให้อุ่นใจก่อนทันใด จากนั้นก็ปรี่เข้าไปค้นกองดอง รื้อในม่านกาลมาอ่านอย่างว่องไว
อ้อ! นอกจาก นิรันดร์บรรจบ ที่เป็นภาคต่อในม่านกาลแล้ว เห็นทีว่าฉันคงต้องกลับไปอ่าน “บุพเพรักร้อยลิขิต” ที่ก็ซื้อมาดองเอาไว้เช่นเดียวกัน อยากตามเผือก เอ๊ย! อยากจะรู้เรื่องราวความรักของท่านชายเพชร ผู้เป็นพี่ชายของท่านภาคขึ้นมาซะแล้ว
ยิ่งได้อ่านที่คุณราตรีนิมิตได้บรรยายเอาไว้ว่า ท่านภาคหล่อเหมือนเทพในปกรณัมกรีก ส่วนท่านชายเพชรนั้นเปรียบได้กับมหาเทพ ราวกับรูปสลักสูงค่าไม่อาจจับต้องได้ หน้าคล้ายท่านชายภาค แต่เป็นโหมดใจดีกว่า เท่านั้นล่ะ ต่อมบ้าผู้ชายหล่อในตัวฉันก็กำเริบทันทีค่ะ
นี่หลังจากอ่านในม่านกาลจบ คราวแรกฉันตั้งใจว่าจะอ่าน บุพเพรักร้อยลิขิต ต่อเลย จะได้รู้เรื่องราวไปตามลำดับ แต่ก็อดใจไม่ไหว ข้ามไปอ่าน นิรันดร์บรรจบ จนจบเล่มก่อนซะแล้ว แต่ถึงจะข้ามเล่มสอง ไปอ่านเล่มสามก่อน ก็ยังเข้าใจเรื่องราวได้แบบไม่ขาดตอนนะ
เดี๋ยวคงต้องเขียนเล่าความรู้สึกที่ได้อ่านนิรันดร์บรรจบ มันจะได้ฟินแบบครบถ้วน อ้อ! แล้วก็ต้องรีบกลับไปอ่านเรื่องราวของท่านชายเพชรต่อด้วย รอหม่อมฉันก่อนนะเพคะ ท่านชายผู้สูงศักดิ์
อีกไม่นานนี้แหละเพคะ เราจะได้พบกัน แต่ท่านชายเพชรคงคิดว่า ใครอยากจะพบหล่อนมิทราบ
Sources
FB: ราตรีนิมิต
ภาพประกอบ: Photo by Philipp Deus from Pexels
Comments
Post a Comment