A Walk to Remember


ในยุคที่ Britney Spears ดังเป็นพลุแตก ภายในระยะเวลาใกล้เคียงกันนั้น ฉันก็ได้รู้จักนักร้องวัยรุ่นอีกหนึ่งคนที่น่ารัก สดใสไม่แพ้ Britney ซึ่งนักร้องคนนั้นก็คือ Mandy Moore ที่มาพร้อมกับเพลงเปิดตัว Candy

ด้วยความเป็นติ่ง Mandy เมื่อทราบข่าวว่าเธอจะมารับบทบาทนางเอกเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง A Walk to Remember ซึ่งสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกัน ผลงานการประพันธ์จาก Nicholas Sparks ฉันจึงรีบไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน ประมาณว่าตื่นเต้น อยากรู้เรื่องราวก่อนจะไปดูหนัง

จำได้ว่าหน้าปกหนังสือเวอร์ชันที่ฉันซื้อมา เป็นภาพของ Mandy Moore และ Shane West ผู้รับบทเป็น Jamie Sullivan และ Landon Carter พระ-นางจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ตอนตัดสินใจซื้อหนังสือมา ไม่ได้รู้เลยว่า เมื่อได้อ่านเรื่องราวในหนังสือแล้ว ฉันจะต้องเสียน้ำตาให้กับตัวละครของคุณ Nicholas Sparks

ยิ่งอ่านไป ค่อยๆ รับรู้เรื่องราว ความสงสาร ความตื้นตันก็บังเกิดขึ้นในใจ โอ๊ย...อย่าให้พูด บทหลังๆ เนี่ยนะ น้ำตาแทบจะหยดลงหน้าหนังสือ อ่านไป สูดน้ำมูก พร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย

ทว่า เมื่อถึงเวลาไปดูหนัง ฉันกลับไม่บ่อน้ำตาแตกนะ อาจเป็นเพราะเสียน้ำตาไปเยอะแล้วจากการอ่าน ได้รู้เรื่องราวมาก่อนแล้ว เลยไม่เศร้า เสียใจ ร้องไห้ตาบวมเหมือนตอนอ่านหนังสือ มีแค่น้ำตาซึมกับบางฉากเท่านั้น

สิ่งที่ฉันประทับใจจากภาพยนตร์ คือเพลงประกอบ Someday We’ll Know ซึ่งต้นฉบับเพลงนี้เป็นของวง New Radicals (ใครยังพอจำวงนี้กันได้ ต้องคุ้นกับเพลงแจ้งเกิดอย่าง You Get What You Give แน่นอน)

โดยเพลงในภาพยนตร์ เป็นเสียงร้องของ Mandy Moore และ Jonathan Foreman ซึ่งฟังแล้ว ก็เข้ากันดีกับเรื่องราวในหนัง หนึ่งในฉากที่ฉันชอบและจำได้แม่น เป็นตอนที่ Landon ขับรถพา Jamie ไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างสองรัฐ ทำให้หนึ่งในความฝันของ Jamie เป็นจริงขึ้นมา (ความฝันของเธอคืออะไร ลองไปหาอ่านกันดูนะ)

เหมือนจะคุ้นว่าหนังสือในฉบับภาษาไทย มีชื่อว่า “ก้าวรักในรอยจำ” แปลโดยคุณจิระนันท์ พิตรปรีชา และเหมือนจะคุ้นอีกด้วยว่า ฉันเคยไปแอบเปิดอ่านเวอร์ชันภาษาไทยในร้านหนังสือ เปิดอ่านตรงตอนที่ประทับใจ ซึ่งคุณจิระนันท์แปลออกมาได้เยี่ยมยอด ซาบซึ้ง ตราตรึงไม่แพ้ต้นฉบับภาษาอังกฤษ (แต่จะว่าไป แค่เห็นชื่อเรื่อง “ก้าวรักในรอยจำ” ก็โดนใจฉันแล้ว)

A Walk to Remember จึงเป็นหนังสือที่นอกจากจะทำให้ฉันตื้นตันไปกับเรื่องราว คำพูดของตัวละครแล้ว ยังช่วยให้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆ อีกมากมาย ถือเป็นการอ่านที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน (รวมถึงการสะอึกสะอื้นด้วย)

ใครสนใจผลงานของ Nicholas Sparks แนะนำให้หาหนังสือเรื่องนี้มาอ่านกันดู สายใจบางแบบฉันนี่ อาจมีเสียน้ำตาได้ง่ายๆ ยังไงก็อย่าลืมเตรียมกระดาษทิชชูเอาไว้ใกล้ตัวตอนอ่านด้วยล่ะ

Source
ภาพประกอบ: Photo by Zane Muir (@zzmm) from Unsplash

Comments