หายไปหนึ่งวัน เนื่องจากหมดพลังไปกับการกวาดบ้าน ถูบ้าน ช่างเป็นงานที่หนักหนาสาหัส สูบเรี่ยวแรงไปมากมายเหลือเกิน หลังจากฟื้นคืนชีพ ต้องรีบมาเขียนถึงเพลงที่วนเวียนอยู่ในหัวขณะทำงานบ้าน เดี๋ยวจะลืมไปหมดซะก่อน (แก่แล้วก็งี้ เอ๊ะ! ไม่เอา ตบปากค่ะ อย่าพูดจาทำร้ายจิตใจกันแบบนี้สิคะ)
หากเอ่ยชื่อ Roy Orbison คนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงเพลงฮิตของเขาอย่าง “Oh, Pretty Woman” ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ยุค ’90 อย่าง Pretty Woman ที่ส่งให้ทั้ง Julia Roberts และ Richard Gere ดังเป็นพลุแตก
แน่นอนว่าฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบเพลงนี้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าถามถึงเพลงที่ฉันชื่นชอบเป็นพิเศษของศิลปินผู้นี้ ก็ต้องบอกว่า You Got It บทเพลงจากปี 1989 ได้ครองตำแหน่งเพลงอันดับหนึ่งในใจฉันอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉันรู้จักเพลงนี้จากการดูภาพยนตร์เรื่อง Boys on the Side ภาพยนตร์ที่มี Whoopi Goldberg, Mary-Louise Parker และ Drew Barrymore นำแสดง ออกฉายเมื่อปี 1995 หูย...นานมากเลยนะนั่น
เรื่องราวโดยละเอียดเป็นอย่างไร แน่นอนว่านานขนาดนั้น จำไม่ได้หรอก (ตอนนั้นยังไม่ได้กินแปะก๊วย) ที่จำแม่นคือ ฉากที่ Mary-Louise Parker ร้องเพลงนี้ในช่วงท้ายเรื่อง ทำฉันเกือบร้องไห้เลย เอาเป็นว่า บอกไว้แค่นี้ละกัน ไม่อยากจะ spoil เนื้อหาไปมากกว่านี้ (ที่จริงจำไม่ได้ก็บอกมาตรงๆ ดีกว่า)
รู้สึกว่าในหนัง จะเป็นเวอร์ชันที่ Bonnie Raitt นักร้องแนวบลูส์ชาวอเมริกัน เป็นผู้ขับร้อง เนื่องจากความประทับใจในบทเพลงจากภาพยนตร์ ทำให้ฉันสืบเสาะจนค้นพบว่า ต้นฉบับที่ร้องเพลงนี้ คือ Roy Orbison นั่นเอง
โดยเพลงนี้น่ะ เป็นการร่วมกันแต่งเนื้อร้องระหว่าง Roy, Tom Petty และ Jeff Lynne ซึ่งสองคนหลังเนี่ย เป็นสหายร่วมวง Traveling Wilburys (วงดนตรีที่ประกอบไปด้วย Bob Dylan, George Harrison, Jeff Lynne, Roy Orbison และ Tom Petty)
You Got It เป็นเพลงที่จะว่าช้าก็ไม่ช้า เร็วก็ไม่เร็ว อธิบายไม่ถูกว่ามันเป็นจังหวะไหน รู้แต่ว่าเสียงกลองในเพลงโดดเด่นมาก พอประกอบกับเสียงทุ้มนุ่มของ Roy Orbison แล้ว ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
เพลงนี้ความสนุกอยู่ตรงท่อนฮุค ซึ่งจำเป็นจะต้องมีลูกคู่นะ มันถึงจะฟิน อารมณ์มันจะประมาณนี้
ร้องนำ: Anything you want.
ลูกคู่: You got it.
ร้องนำ: Anything you need.
ลูกคู่: You got it.
ร้องนำ: Anything at all.
ลูกคู่: You got it.
ร้องนำ: Baby…
พูดง่ายๆ ว่า เวลาร้องเพลงนี้ คนร้องนำกับลูกคู่ควรมีการซักซ้อมร่วมกันก่อนนิดนึง ให้รู้คิวของแต่ละคน เพลงถึงจะออกมาฟังเพลินและไพเราะ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทเพลงจาก Roy Orbison ที่ฉันอยากแนะนำให้ผู้ที่อาจจะคุ้นเคยแค่เพียง Oh, Pretty Woman ได้ลองฟังกันดู
ฟังครบทั้งสองเพลงแล้ว ไม่แน่นะ คุณอาจเกิดจินตนาการพุ่งกระฉูดจนนำมาร้องเป็นเวอร์ชันพิเศษของตัวเองโดยเฉพาะว่า “Pretty Woman. You Got It.”
ว่าแต่นี่มันเรียกว่าไอเดียบรรเจิดหรือสับสนกันแน่ฟระ
Source
ภาพประกอบ: Photo by asif hussain from Pexels
Comments
Post a Comment