The Queen of Rock ‘n’ Roll


จากโพสต์ครั้งก่อนที่มีการพูดถึงทั้ง King of Pop และ Queen of Pop ได้แก่ Michael Jackson และเจ๊แม่ Madonna ไปแล้ว ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนโหมดจากป๊อป มาเป็นแนวร็อกแอนด์โรลกันบ้าง

จะร็อกทั้งที งั้นฉันขอสนุกไปกับบทเพลงของศิลปินที่ได้รับสมญานาม “ราชินีแห่งร็อกแอนด์โรล” ก็แล้วกัน และผู้ครองตำแหน่งที่ว่านี้ ได้แก่ Tina Turner นักร้องหญิงที่มีเสียงแหบแต่ทรงพลัง และมีเรียวขาสวย เซ็กซี่ที่สุดคนหนึ่งของวงการดนตรี

เมื่อพูดถึง Tina ฉันจะต้องนึกถึงบทเพลงที่เปรียบเสมือนเพลงประจำตัวเธอ นั่นก็คือ Proud Mary โดยเวอร์ชันดั้งเดิมนั้น เป็นของวงร็อกชื่อยาวอย่าง Creedence Clearwater Revival หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า CCR (อ่านดีๆ นะ นี่เรากำลังพูดเรื่องดนตรี ไม่ใช่ข้ามไปวงการแพทย์กับการ CPR โอว...มุกนี้ เหมือนจะแป้กอีกแล้วนะแก)

สำหรับใครที่ไม่รู้จัก CCR บอกเพิ่มเติมอีกหน่อยนึงว่า เพลงฮิตติดลมของวงนี้อีกหนึ่งเพลง คือ Have You Ever Seen the Rain? หูย...เพลงนี้น่ะ สมัยก่อนดังมากเลยนะ ชาวร็อกยุคนั้นต้องร้องตามได้แน่ๆ “I want to know, have you ever seen the rain? Comin’ down on a sunny day.”

กลับมาพูดถึง Proud Mary ในเวอร์ชันของ Tina กันต่อ โดยเวอร์ชันนี้ ได้ Soko Richardson เป็นผู้เรียบเรียงทำนองขึ้นใหม่ มีความแตกต่างจากต้นฉบับอยู่พอสมควร  เพลงจะเริ่มในจังหวะเอื่อยๆ พร้อมกับการที่ Tina พูดคลอตามจังหวะของเพลงไปด้วยว่า เอาล่ะนะจ๊ะ ต่อไปนี้ เรามาฟังอะไรที่มัน “nice and easy” กันดีกว่า

จากนั้นเธอก็เต้นตามจังหวะเนิบนาบของเพลงต่อไป ขณะเดียวกันก็บอกกับผู้ฟังอีกว่า จากความ easy ในตอนต้นน่ะ เดี๋ยวพอตอนจบ มันจะกลายเป็น rough จ้า ประมาณว่าเป็นการบอกกล่าวเพื่อให้ผู้ฟังได้เตรียมตัวเตรียมใจล่ะมั้ง

ต้องบอกว่า Proud Mary เป็นเพลงที่ค่อนข้างยาว ใครเคยได้ฟังเพลงนี้ในเวอร์ชันแสดงสด น่าจะรู้ว่าแค่เพลงนี้เพลงเดียว ใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบสิบนาทีเชียว เฉพาะแค่การเกริ่นนำเข้าเพลงที่เป็นการพูดคลอจังหวะดนตรีก็กินเวลานานหลายนาทีแล้ว กว่า Tina จะได้เริ่มร้องแบบจริงจัง ก็ผ่านไปสองนาทีกว่าๆ นู่นแหนะ

จุดเปลี่ยนหรือจะเรียกว่าเป็นจุดพีคก็ได้ น่าจะอยู่ตอนช่วงประมาณเกือบจะนาทีที่ห้าของเพลง จากจังหวะเอื่อยเฉื่อย อ้อยอิ่งในตอนต้น กลายมาเป็นจังหวะมันชวนเต้น

แฟนพันธุ์แท้ของ Tina ต้องรู้ท่าเต้นประจำของเธอในเพลงนี้แน่ๆ เต้นยังไงล่ะ ไม่ยากเท่าไหร่หรอก ยื่นแขนทั้งสองข้างเหยียดตรงไปด้านหน้า พร้อมกับก้มหัว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา ขณะเดียวกันเท้าทั้งสองข้างก็ต้องขยับซอยไปข้างหลังด้วย โดยต้องทำท่านี้ประมาณสี่ครั้ง เอาล่ะ หยุดแป๊บ ขอฉันลองเต้นดูดิ๊ (เฮ้ย! นั่นแกเป็นไร ทำไมเซไปเซมาแบบนั้นล่ะ ยืนให้มันตรงๆ หน่อยเซ่ อาย Tina บ้าง ร้องไปด้วย เต้นไปด้วย พลังเธอยังไม่ตกเลย)

นี่เป็นเพลงที่ Tina ได้ปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่มากที่สุดเพลงหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งร้อง ทั้งเต้น ลีลาท่าทางของเธอนั้นกินขาด การเคลื่อนไหวอันเร้าใจ บวกกับเสียงร้องหนักแน่นชวนฟัง เหมือนเป็นการช่วยกระตุ้นผู้ฟังให้อยากปล่อยแก่ เอ๊ย! ปล่อยพลัง แล้วลุกขึ้นมาเต้นแบบลืมโลกไปพร้อมเธอด้วย

A Fool in Love เป็นอีกหนึ่งเพลงจาก Tina ที่โดนใจฉัน จำได้ว่าหลายปีมาแล้ว ฉันดู The X Factor รายการแข่งประกวดร้องเพลงของประเทศอังกฤษ โดย Olly Murs หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในปี 2009 นำเพลงนี้มาร้องในรอบการแสดงสดครั้งที่สอง

การแสดงของ Olly ในครั้งนั้น ช่วยเปิดหูเปิดตาฉันเป็นอย่างมาก นอกจากจะได้รู้จักเพลงของ Tina เพิ่มอีกหนึ่งเพลง ได้เพลินไปกับเสียงร้อง และลีลาการเต้นอันเป็นธรรมชาติของเขาแล้ว ยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรดานักเต้นประกอบเพลงในการแสดงครั้งนั้นด้วยล่ะ

โดยนักเต้นเหล่านี้ มาในลุค flapper สาวเปรี้ยวจากยุค 1920s ใส่ชุดเดรสสั้นที่มีระบายเป็นริ้วๆ หลายชั้นลดหลั่นกันลงมา ไว้ผมบ็อบ พร้อมทั้งแต่งหน้าในโทนเข้ม เขียนตาดำ ทาปากแดงปั๊วะ (ถ้าจะให้ครบเครื่องความเป็น flapper มันจะต้องมีสร้อยไข่มุกเส้นยาว, headband ติดเพชรเป็นประกายวิ้งๆ พร้อมขนนกกรุยกราย, ถุงมือยาวเลยข้อศอก, cigarette holder และรองเท้าทรง T-Strap)

อู๊ย...พูดเลยว่าเป็นเพลงที่ดูแล้วเมามันมาก ถ้าร้องไปด้วย จะยิ่งอิน “You know you love him, you can't understand. Why he treats you like he do, when he's such a good man?”

อันนี้บอกไว้ เผื่อใครอยากรู้ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันในปีนั้น Olly Murs ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ และปัจจุบันเป็นนักร้องที่มีเพลงออกมาหลายอัลบั้มแล้ว (ขอนอกเรื่องอีกหน่อยว่า เพลงที่เขาเลือกร้องในรอบ audition คือ Superstition จาก Stevie Wonder)

และทั้งหมดที่เล่ามานี้ เป็นเรื่องราวของสองบทเพลงในจังหวะสนุกเต็มที่จาก Tina Turner ที่ฉันปิ๊ง คาดว่า Tina อาจจะร่ายมนตร์บางอย่างใส่ลงไปในบทเพลงทั้งคู่ ทันทีที่เสียงเพลงขึ้น ราวกับพลังความเป็นนักเต้น (ที่อาจจะซ่อนอยู่ลึกๆ ลึกมาก) ในตัวฉัน ได้ถูกปลุกขึ้นมา พร้อมที่จะวาดลวดลายไปตามท่วงทำนองเพลง

เต้นไปเถอะ เต้นไปเลย ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาหาทางรักษาอาการเคล็ดขัดยอกจากการสะบัดแข้งขาแบบผิดองศาก็ยังไม่สาย

Source
ภาพประกอบ: Photo by Valeria Boltneva from Pexels

Comments