หายไปหนึ่งวันเนื่องจากมีภารกิจติดพัน ส่วนติดพันเรื่องอะไรนั้น เดี๋ยวจะมาเล่าก็แล้วกัน (เอ่อ...ใครอยากรู้ไม่ทราบ ไม่เป็นไร ยังไงก็จะเล่า) เอาล่ะ ลืมเรื่องภารกิจไปก่อน แล้วมาเข้าเรื่องสำหรับวันนี้กันเลยดีกว่า
จากที่วันก่อนได้พูดถึง Gwen Stefani และบทเพลง Wind It Up ที่นำเอาบางส่วนของเนื้อร้องและทำนองจาก The Lonely Goatherd หนึ่งเพลงดังจากภาพยนตร์อมตะ The Sound of Music มาผสมอยู่ในเพลงแล้ว ทำให้ฉันนึกถึงเพลงของ Gwen ตามมาอีกหลายเพลง
ก่อนที่จะพูดถึงเพลงต่างๆ คงต้องทำการแนะนำประวัติของเธอให้ผู้อ่านรู้จักกันเล็กน้อย Gwen Stefani เป็นนักร้องนำจากวง No Doubt มีเพลงแจ้งเกิด ดังเปรี้ยง คือ Don’t Speak ที่ออกมาในปี 1996 ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้ เกี่ยวกับการเลิกรากันของตัวเธอและ Tony Kanal มือเบส สมาชิกเพื่อนร่วมวงนั่นเอง โอเค เล็กน้อยได้ที่แล้ว จบส่วนของประวัติความเป็นมาของศิลปินไว้เพียงเท่านี้
นอกจาก Don’t Speak ที่อยู่ในอัลบั้มสร้างชื่อ Tragic Kingdom แล้ว ฉันยังชอบอีกสองเพลงจากอัลบั้มต่อมาอย่าง Return of Saturn ได้แก่ Don’t Let Me Down และ Bathwater
ส่วนเพลงที่ฉันชอบมากที่สุดจากวงนี้ คือ Underneath It All อยู่ในอัลบั้มชื่อว่า Rock Steady ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สี่ของทางวง สำหรับเพลงนี้ ผู้ฟังจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็น reggae โดยมีนักร้องชาวจาเมกา Lady Saw มาร่วมร้องด้วย และในช่วงท้าย MV เพลงนี้ เราจะได้เห็น Gwen ในชุดขาว แต่งหน้าบางๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มาในโหมดสีสันจัดเต็มเหมือนเวอร์ชันปกติที่แฟนเพลงเห็นกันจนคุ้นตา
ฉันว่า Gwen เป็นศิลปินหญิงที่มีหน้าตาสวยคนหนึ่งของวงการเพลงเลยล่ะ ด้วยเครื่องหน้าลงตัว ทั้งตาคม ริมฝีปากเซ็กซี่ พร้อมผมบลอนด์อันเป็นเอกลักษณ์ ลุคของเธอคนนี้ ทำให้ฉันมักจะนึกไปถึง Madonna เจ้าแม่เพลงป็อป
ลำดับต่อไป ขอพูดถึงเพลงในอัลบั้มเดี่ยวของเธอกันบ้าง เพลงฮิตติดหูที่ฉันชอบ คือ Hollaback Girl บทเพลงจังหวะสนุกสนานที่มี Pharrell Williams เป็นผู้ร่วมแต่งเนื้อร้อง โดยเพลงนี้อยู่ในอัลบั้มชื่อ Love. Angel. Music. Baby. ซึ่งเป็นอัลบั้มโซโลแรกของ Gwen ส่วนเพลงต่อมา ได้แก่ The Sweet Escape จากอัลบั้มเดี่ยวลำดับที่สองในชื่อเดียวกัน ซึ่งในเพลงนี้ ได้ Akon (เจ้าของเพลง Smack That) มาร่วมร้องด้วย
มาถึงบทเพลงสุดท้าย เพลงอันดับหนึ่งในใจจาก Gwen ที่ฉันชื่นชอบ นั่นก็คือ Cool เนื้อหาในเพลงกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและอดีตแฟน Tony Kanal ประมาณว่าถึงเราทั้งคู่จะเลิกรากันไปแล้ว แต่เราก็โอเคกันดีอยู่นะ
MV เพลงนี้ไปถ่ายทำกันที่ Lake Como ประเทศอิตาลี ซึ่งมีวิวสวยระดับดาวล้านดวง เรื่องราวในเพลงจะเล่าถึงการพบกันระหว่าง Gwen และอดีตชายคนรักที่มาเยี่ยมเยียนเธอที่บ้าน โดยการพบกันครั้งนี้ เขาได้พาหญิงสาวที่เขาคบอยู่ในปัจจุบันมาด้วย
ทั้งตัวเรื่องราว นักแสดง และสถานที่ถ่ายทำ แสนจะดีงาม โดยเฉพาะ Villa Erba ซึ่งใช้เป็นบ้านของ Gwen มีความโอ่อ่า อลังการงานสร้างมาก รวมทั้ง Daniel González นักแสดงชาวสเปน ผู้รับบทแฟนเก่าของ Gwen ก็เซ็กซี่เหลือเกิน (เป็นผู้ชายที่มีตาสวย น่าลุ่มหลง)
เรื่องราวใน MV จะตัดสลับกันไปมา ให้ผู้ชมเห็นภาพในอดีตเมื่อทั้งคู่ยังรักกัน และตัดกลับมา ณ ปัจจุบันที่ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ภายใต้บรรยากาศอบอุ่น เป็นมิตรนั้น คนดูอย่างฉันกลับรู้สึกอึดอัดขัดใจหน่อยๆ แบบตกลงทั้งคู่ “cool” ใช่มั้ยเนี่ย ทำไมยังสัมผัสได้ถึงความโหยหาระหว่างกันฟระ ถ่านจะคุป่าวหว่า นั่นล่ะค่ะ เป็นการนั่งดูไป พร้อมกับลุ้นในใจไปคนเดียว
หากสังเกตให้ดี Gwen ในภาคอดีต มีผมสีน้ำตาลเข้ม เมื่อมองไปที่แฟนสาวคนใหม่ เธอผู้นั้นก็มีผมสีเดียวกับ Gwen ในอดีตนั่นแหละจ้า ประมาณว่าแฟนใหม่มีบางส่วนที่คล้ายคลึงแฟนเก่า แล้วนี่ตกลงทั้งคู่ตัดใจจากกันได้จริงป่ะ (นี่ก็ยังไม่เลิกสงสัยอีกนะ)
สังเกตต่อไปอีกนิด พระเอกมิวสิกเนี่ย มองไปมองมา ก็มีลักษณะคล้าย Tony Kanal อยู่เหมือนกันนะ ดูเข้ม ดูคม ส่วนหญิงสาวผู้ที่มารับบทเป็นแฟนใหม่ใน MV นี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ Erin Lokitz แฟนสาวในชีวิตจริงของ Tony ไงล่ะ เป็นการเลือกนักแสดงที่สมจริงมาก ตอกย้ำเนื้อหา ความรู้สึกในเพลงได้เป็นอย่างดี
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของ Gwen ใน MV เพลงนี้ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบมาก ทั้งชุดเดรสลายดอกสีเขียว ชุดว่ายน้ำดูวินเทจ กระโปรงทรงบานสีขาว ที่จับมาใส่คู่กับบิกินีลายขวาง พร้อมเสื้อคลุมสีฟ้า หรือจะเป็น romper สีแดงจุดขาว ยังมีเสื้อคอเต่าแขนยาวสีกรมท่า พร้อมกางเกงขาสั้นสีขาวอีกชุด โอ๊ย! ถูกใจมันไปซะทุกชุด
ช่วงท้ายของเพลง ฉากที่ทั้งสามคนเดินไปชมวิวทะเลสาบ เห็นแล้วอยากแว้บไปเดินเล่นกับเค้าบ้าง (เก็บเงินก่อนมั้ยแก) เป็นหนึ่งในมิวสิกวีดีโอที่สวยงาม ดูแล้วประทับใจ และชวนให้เกิดกิเลสยิ่งนัก อยากได้ villa จะเอาเสื้อผ้าสวยๆ อยากว่ายน้ำในทะเลสาบ ฮือๆ
โถ! ตื่นจากฝันได้แล้ว แถวนี้ไม่มีทะเลสาบหรอกนะ ใกล้เคียงสุดก็สระว่ายน้ำที่สนามกีฬาแถวบ้าน จะว่ายมั้ยล่ะ ถ้าอยากว่าย ก็นั่งสองแถวออกไปเหอะ เลิกมโนซะที
Source
ภาพประกอบ: Photo by Matheus Guimarães from Pexels
Comments
Post a Comment