ท่ามกลางแสงแดดแผดจ้า ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการนั่งแทะแตงโมด้วยความเพลิดเพลินใจอีกแล้ว แค่เห็นเนื้อแตงโมสีแดงสดใส ตัดกันกับเปลือกสีเขียวเข้ม ก็แทบอยากจะตรงรี่เข้าไปหยิบขึ้นมากินโดยพลัน
ทันทีที่ได้สัมผัสเนื้อทราย รับรู้รสชาติหวานฉ่ำ และความชุ่มน้ำของแตงโม อืม...มันฟินอะไรอย่างนี้ ยิ่งถ้าเอาแตงโมไปแช่ในตู้เย็นไว้ก่อนนะ เวลาผ่ากิน มันจะยิ่งดีงามกว่าเดิมหลายเท่า
นอกจากการนั่งแทะเนื้อแตงโมสดๆ จะอร่อยมากแล้ว เรายังสามารถนำเนื้อแตงโมมาปั่น เป็นเครื่องดื่มดับร้อน แก้กระหาย เย็น ชื่นใจได้อีกด้วย เวลาซดน้ำแตงโมปั่นหวานอร่อยลงคอโฮกๆ มันสะใจดีนักล่ะ
พูดถึงแตงโม ทำให้ฉันนึกถึง “ปลาแห้งแตงโม” เมนูสูตรโบราณ ว่ากันว่าคนในสมัยก่อนนิยมรับประทานเป็นอาหารว่างในช่วงหน้าร้อน ตัวฉันน่ะ ยังไม่เคยได้ลองทานหรอก ก็เลยไม่รู้ว่ารสชาติของอาหารชนิดนี้เป็นอย่างไร
แต่คิดไปแล้ว ทำให้ฉันชื่นชมและนับถือในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในสมัยก่อนซะจริง ลองนึกภาพย้อนกลับไปในสมัยนั้นสิ ในยุคที่อาจจะยังไม่มีตู้เย็น น้ำแข็งก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหาซื้อได้ทั่วไป ไม่มีพัดลม จะไปนอนเปิดแอร์เย็นฉ่ำน่ะเรอะ เลิกพูดไปได้เลย ดังนั้น การกินแตงโมคงเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยคลายร้อนได้ดีของคนในสมัยก่อน
มานั่งจินตนาการต่อไปอีกว่า หากเป็นฉันที่ดันย้อนเวลา หลุดเข้าไปในอดีต เหมือนกับที่เคยได้อ่านเรื่องราวจากบรรดานิยายย้อนเวลาทั้งหลาย ตัวเองจะมีชีวิตอยู่รอดได้กี่วันกันหนอ
ไม่มีทีวีให้ดู อืม...อันนี้น่าจะไม่เป็นไร เพราะปกติแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เหอะๆ นี่แหละหนักสุดแล้วมั้ง นิ้วคงหงอยเหงา เคว้งคว้าง ไม่มีอะไรให้ไถ แล้วจะทำอะไรระหว่างวันกันล่ะ
อาจจะต้องไปช่วยท่านเจ้าของเรือนไทย นั่งอบร่ำผ้ากระมัง ตกบ่ายก็มานั่งร้อยมาลัย (คาดว่านิ้วมือของฉันคงเป็นรูพรุนจากรอยเข็มทิ่มตำ) แล้วก็มานั่งละเหี่ยใจกับมาลัยที่ไม่ผ่านเกณฑ์ของตัวเอง โฮ...เศร้าจัง
จะให้ไปทำกับข้าว เอิ่ม...อันตัวฉันนี้ จะมีปัญญาจุดเตาถ่านด้วยตัวเองได้สำเร็จรึป่าวก็ยังไม่แน่ใจเลย และคงไม่มีคุณหลวงมาดดีที่ไหนมาเห็นอกเห็นใจทั้งนั้นล่ะ ฮือๆ แค่คิดก็เพลียแล้ว มั่นใจว่าตัวเองต้องร้องไห้ขี้มูกโป่ง คิดถึงบ้านภายในไม่เกินหนึ่งอาทิตย์
แต่หากฉันได้ย้อนเวลากลับไปจริงๆ ก็คงมีโอกาสได้เห็นสภาพบ้านเมืองในยุคโบราณ ได้เห็นแม่น้ำ ลำคลองที่ยังสะอาด ไร้มลพิษ ต่างจากทุกวันนี้ ได้ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ อวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้ไทยๆ ได้ห่มสไบสวย นุ่งโจงกระเบนสีตามวัน และคงได้สัมผัสกับประสบการณ์มากมายที่อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นหรือได้ทำในยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นการใช้ชีวิตในแบบ slow life อย่างมีความสุข
โห...ไม่น่าเชื่อว่าแตงโมจะนำพาให้ฉันเถลไถล ออกนอกเรื่องไปไกลได้ถึงขนาดนี้ ตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบัน ในโลกที่ฉันมีแตงโมครึ่งลูก นอนแอ้งแม้ง เย็นฉ่ำ รอคอยอยู่ในตู้เย็น
เห็นทีว่าแม่หญิงยุค ๖๒ อย่างฉัน ผู้ไร้ซึ่งสไบและโจงกระเบน แต่มาในมาดเสื้อยืดสีชมพู กางเกงขาสั้นลายดอกสีบานเย็น คงต้องขอตัวไปหั่นแตงโม เอามาแจกจ่ายสมาชิกในครอบครัวให้ได้เย็นสดชื่นถ้วนหน้ากันก่อนนะจ๊ะ
ได้เวลาหยุดมโนถึงคุณหลวงมาดเข้ม เพราะไอ้ที่เข้มน่ะ น่าจะเป็นผิวของตัวเองที่ต้องเจอฤทธิ์แสงแดดทุกวันนี้ซะมากกว่า
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment