สมัยเรียนจบใหม่ๆ ในระหว่างที่ยังคงว่างงานอยู่นั้น แม่กับน้าได้ส่งฉันไปเรียนคอร์สทำขนมกับทางสถาบันแห่งหนึ่ง ซึ่งคุณน้าเชฟของฉันเคยเรียนมาก่อนแล้ว เดาเอาว่าที่บ้านคงอยากให้มีกิจกรรมทำในระหว่างการรองาน เลยให้ฉันไปเข้าคอร์สเรียนอะไรสักอย่าง
นั่นเป็นการเรียนทำขนมครั้งแรกและจนถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นการเรียนเพียงครั้งเดียวสำหรับฉัน โรงเรียนที่สอนอยู่แถวสยามสแควร์ ในครั้งแรกของการเรียน นักเรียนจะได้รับแจกเอกสารคนละหนึ่งแฟ้ม ในนั้นจะบอกรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่น ความรู้ทั่วไปในการทำขนม วัตถุดิบพื้นฐานต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนม เป็นต้น
วันที่สองของการเรียน ในช่วงแรก ครูผู้สอนจะอธิบายเนื้อหาของขนมที่จะทำในวันนั้น เหมือนเป็นการบอกเล่าถึงส่วนประกอบของขนมชนิดนั้น รวมไปถึงวิธีทำ และขั้นตอนต่างๆ ประมาณว่าให้นักเรียนเห็นภาพรวม เพื่อความเข้าใจในเบื้องต้น ก่อนที่จะได้ลงมือปฏิบัติจริง
สิ่งดีของการเรียนทำขนม นั่นก็คือ รายการขนมที่เหล่านักเรียนได้ทำในแต่ละวัน เมื่อทำเสร็จเรียบร้อย นักเรียนสามารถนำผลงานกลับบ้านได้ด้วย ก็แน่ล่ะสิ ทำเองก็ต้องเอากลับไปรับผิดชอบเอง ถ้าอร่อยก็ดีไป ถ้าวันไหนฝีมือไม่เข้าท่า แกก็ต้องจัดการกับขนมนั้นเอาเอง แหะๆ (แต่โดยส่วนใหญ่ ขนมที่ทำออกมาในแต่ละวัน มันก็ไม่ได้แย่นะ เพราะเป็นการทำตามสูตรที่บอกส่วนผสมทุกอย่างไว้อย่างแม่นยำและชัดเจนแล้ว)
การเรียนในครั้งนั้น ฉันได้เรียนรู้วิธีการทำขนมหลายชนิด มีทั้งพายลูกตาล เค้ก ขนมปังปอนด์ ฯลฯ (แต่อย่ามาถามถึงวิธีทำในตอนนี้นะ ส่งความรู้คืนครูไปนานแล้ว)
จำได้ว่าวันที่เรียนทำเค้ก พออบเค้กเสร็จ แงะก้อนเค้กออกจากแม่พิมพ์เรียบร้อย จากนั้นจึงเป็นการตกแต่งหน้าเค้กตามสไตล์ของนักเรียนแต่ละคน ไม่ได้มีการกำหนดตายตัวว่าจะต้องทำเป็นรูปนั้นรูปนี้ (เป็นแค่คอร์สเรียนทำขนมเบื้องต้นไง ไม่ใช่การเรียนขั้นสูง) นั่นทำให้ฉันได้รู้ว่า การตกแต่งหน้าเค้ก ไม่ได้ง่ายเลย
แค่อยากจะเขียนชื่อเล่นของตัวเองลงบนหน้าเค้ก ยังทำเอาทุลักทุเลพอสมควร ส่วนที่ลำบากก็เพราะการบีบครีมแต่งหน้าจากกรวยนี่แหละ น้ำหนักมือจะต้องแม่นยำ ตัวครีมก็ต้องเป็นใจในการบีบด้วยนะ ไม่ใช่ครีมเนื้อเหลวเกิน บีบลงไป แทนที่จะสวย อาจกลายเป็นเละเทะ
หรือจะเป็นตอนที่บีบครีม/แยมตกแต่งหน้าเค้กให้เป็นรูปผลไม้ ความที่ยังกะน้ำหนักมือไม่แม่น ทำให้ผลไม้บนหน้าเค้กของฉัน มีรูปร่างออกจะประหลาดนิดๆ (แน่ใจเหรอว่านิดหน่อย) ลองนึกภาพตามละกัน อยากบีบให้เป็นรูปส้ม แต่ผลส้มกลับดูโย้เย้ ไม่กลมสวยเอาซะเลย
เห็นฝีมือการแต่งหน้าเค้กของตัวเองแล้ว ทำให้ฉันนึกถึงเค้กหน้ากุหลาบของแม่ขึ้นมาทันที แม่ของฉันน่ะ ก่อนหน้านี้เคยทำขนมและเค้กขายเป็นงานอดิเรกด้วยนะ เท่าที่จำได้จากที่คุณน้าทั้งสองเล่าให้ฟัง รู้สึกว่าแม่จะทำครองแครงกรอบ และเค้ก ส่วนลูกค้าน่ะเหรอ ก็บรรดาเพื่อนร่วมงานของแม่นี่แหละ
ความที่เป็นคนใจเย็น แม่ฉันจึงแต่งหน้าเค้กออกมาได้สวยงาม ลายเค้กที่ถนัดของแม่ ได้แก่ ลายกุหลาบ เห็นจากรูปถ่ายในอัลบั้มภาพ กุหลาบของแม่มีกลีบสวยงาม สีอ่อนหวาน มีใบไม้สีเขียวอ่อนแซม ได้องค์ประกอบสมบูรณ์
ตัดภาพมาที่ฉัน แค่จะตกแต่งส้มสักลูก ยังบิดเบี้ยว โย้ไปเย้มา น่าเพลียใจ กุหลาบนี่คงไม่ต้องพูดถึง ข้ามไปได้เลยค่ะ 555 เป็นข้อพิสูจน์ว่า ลูกไม้น่ะ มันไม่ได้หล่นใกล้ต้นเสมอไปหรอกนะ อย่างฉันกับแม่ไง หล่นเลยไปซะไกลโข อิอิ
วันที่เรียนทำขนมปังปอนด์รสใบเตย เป็นอีกหนึ่งวันที่ดูจะร่อแร่ เพราะต้องออกแรงใช้ไม้นวดแป้ง คลึงแป้งให้เป็นแผ่น ต้องนวดอยู่หลายรอบ นวดไปนวดมา แทบจะหมดแรง แบบจวนเจียนจะได้เวลาต้องเอาขนมไปอบแล้ว ฉันยังนวดไม่ถึงไหนเลย
โชคยังดีอยู่บ้างที่คุณพี่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือฉันในครั้งนั้น ทำให้สามารถส่งขนมปังเข้าเตาอบได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด คาดว่าคุณพี่คงสังเกตท่าทางการนวดแป้งของฉันแล้วรู้ในใจว่า ขืนปล่อยให้มันทำไปตามยถากรรมแบบนั้น ก็คงไม่ได้ขนมปังกลับไปกินบ้านแน่นอน
ขนมปังปอนด์ของฉันในวันนั้น ออกมาสวยงาม (น่าจะเป็นเพราะฝีมือการนวดของคุณพี่ที่มาช่วยเหลือ) เมื่อนำมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ให้มีรูปร่างเหมือนกับขนมปังที่เราไปซื้อกินตามห้าง ยิ่งดูสวยด้วยสีเขียวของใบเตย
เป็นอันว่าฉันก็ได้ห่อขนมปังกลับไปอวดสมาชิกทุกคนในบ้านด้วยความภาคภูมิใจ (แม้จะเป็นฝีมือตัวเองในแบบน้อยนิดก็เถอะ)
ขอขอบคุณ คุณพี่ผู้ใจดีคนนั้นอีกครั้งมา ณ ที่นี้ด้วย
Source
ภาพประกอบ: Photo by Skitterphoto from Pexels
Comments
Post a Comment