ผู้สาวขาเลาะ

หากพูดถึงเพลงลูกทุ่ง แน่นอนว่าศิลปินขวัญใจตลอดกาลของฉันจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากราชินีลูกทุ่ง คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งความชื่นชอบนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากพี่เลี้ยงของฉันในวัยเยาว์นั่นเอง (หากใครอยากทราบเรื่องราวของพี่เลี้ยง ผู้รักในเสียงดนตรี ขอเชิญไปหาอ่านเรื่องราวของคุณพี่ได้จากเรื่อง “คอนเสิร์ตลูกทุ่งหลังบ้าน”)

จากเด็กน้อยในวันวานที่พี่เลี้ยงได้มีส่วนช่วยเลี้ยงดู จวบจนกระทั่งเข้าสู่วัยประถม โตมาพร้อมเสียงเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ และพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ จากนั้นคุณพี่เลี้ยงจึงมีความจำเป็นต้องลากลับบ้าน เพื่อไปดูแลครอบครัวของตัวเอง และนั่นทำให้ฉันกับเสียงเพลงลูกทุ่งห่างหายจากกันไปโดยปริยาย ประมาณว่าขาดผู้นำทางจิตวิญญาณความเป็นลูกทุ่ง

นานๆ ครั้งจึงจะได้ยินเพลงลูกทุ่งมาเข้าหูด้วยความบังเอิญบ้าง เรียกได้ว่าถ้าเพลงนั้นไม่ดังจริงๆ ฉันก็ไม่มีทางรู้จักเป็นแน่แท้ ยกตัวอย่างเพลงลูกทุ่งที่ฉันพอจะรู้จัก น่าจะเป็นเพลงของหญิงลี ศรีจุมพล “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ที่ฮอตฮิตระเบิดอยู่ช่วงหนึ่ง คือต้องเป็นความดังระดับนี้เท่านั้นแหละ ฉันถึงพอจะรู้จักกับเขาบ้าง

โอ๊ย...ช่วงนั้นน่ะ ใครๆ ต่างก็นิยมเต้นเพลงนี้ด้วยกันทั้งนั้น ขนาดเพื่อนที่ทำงานยังเอาเพลงนี้มาเต้นในงานบริษัทเลย ท่าเต้นโยกตัว หมุนตัวประกอบเพลงนี้ ตอนนั้นใครเต้นไม่เป็น ถือว่าตกกระแสสุดๆ (ก็ฉันนี่ไง)

เพลงของหญิงลีเพลงนี้ ดังจริง อะไรจริง ในความเห็นของฉัน คิดว่าเป็นเพลงที่ฟังเพลินดีอยู่ แต่ไม่ถึงกับชอบเป็นพิเศษ ประมาณว่ารู้จักเพลงจากการได้ยินได้ฟังโดยบังเอิญตามรายการต่างๆ ทางโทรทัศน์ พอได้ฟังบ่อยเข้า มันก็ติดหูไปเอง อะไรทำนองนั้นมากกว่า

แล้วเวลาก็ผ่านไป จนกระทั่งฉันมาได้ยินเพลงลูกทุ่งอีกหนึ่งเพลงที่คาดว่าความดังก็น่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร แบบว่าช่วงหนึ่ง ได้ยินเพลงนี้บ่อยมาก แต่ก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าเพลงที่ว่านี้คือเพลงอะไร ใครเป็นคนร้อง

ยิ่งเวลาเปิดดูรายการไมค์ทองคำ รายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งด้วยแล้ว ฉันมักจะได้เห็นผู้เข้าแข่งขันต่างใช้เพลงนี้มาร้องหลายต่อหลายคนด้วยกัน นั่นทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เอ...เพลงนี้มันเป็นเพลงของใคร ชื่อเพลงอะไรกันนะ ทำไมคนถึงชอบใช้เป็นเพลงลงแข่งกันนักก็ไม่รู้

โดยเฉพาะเมื่อร้องมาถึงท่อนที่ว่า “บ่ได้เข้ามาเพื่อกดดัน” จะสังเกตได้แทบทุกครั้งเลยว่า ผู้เข้าแข่งขันมักจะใส่อินเนอร์ตรงท่อนนี้กันเต็มที่ มาเลยเต็มๆ เน้นๆ ตรงคำว่า “โก๊ดดด ดัน” แบบที่เมื่อได้ฟังแล้ว ฉันเลยรู้สึกโก๊ดดัน ต้องรู้ให้ได้แล้วล่ะว่านี่มันเพลงอะไรกันฟระ

เมื่อทนความสงสัยไม่ไหวอีกต่อไป ทำให้ฉันไปสืบหาชื่อเพลงและชื่อคนร้อง และนั่นทำให้ฉันได้รู้จักเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” และ “ลำไย ไหทองคำ” จนได้ (โอย...แกมัวไปอยู่โลกไหนมาเนี่ย อะไรมันจะดีเลย์และตกกระแสได้ขนาดนี้ คาดว่าคนเกือบทั้งประเทศน่าจะรู้จักเพลงนี้กันหมดแล้ว)

หลังจากนั้น ฉันจึงลองไปฟังเพลงนี้ในแบบเวอร์ชันต้นฉบับ ประมาณว่าสงสัยไงว่าทำไมมันถึงดังได้ขนาดนี้ โห...แค่ขึ้นเพลงมาในจังหวะโจ๊ะพรึมๆ พร้อมเสียงของน้องลำไยที่ร้องว่า “เฮะ เฮะ อ่ะ อ่ะ อ่ะ...อ่ะ” ฉันก็รู้ได้ในทันทีว่า เพลงนี้มันแน่ๆ

ยิ่งได้ยินท่อนต่อมา “โยว่ ม่ะ ม่ะ เฮ้ เฮ้...ฮู้ว” และดนตรีเริ่มมาเต็ม ยิ่งเหมือนเป็นการเชิญชวนให้คนฟังเตรียมเต้นกันแบบเต็มที่ไปเลย ปากก็ตะโกนร้องไปด้วยว่า “เฮาแค่ผู้สาวขาเลาะ บ่แม่นผู้สาวขาเรียน บ่ได้ขยันหมั่นเพียร ปากกาสิเขียนยังได้ยืมหมู่” โอ๊ย...สะใจค่ะ

เรียกว่าเป็นเพลงที่ทำให้ฉันครึกครื้นตั้งแต่ต้นเพลงยันจบเพลง ฟังจบแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงดังไปทั่วทุกระแหง และใช่ค่ะ ฉันก็เป็นหนึ่งในผู้คนอีกมากมายที่หลงรักเพลงมีเสน่ห์อย่างผู้สาวขาเลาะ

ด้วยท่วงทำนองชวนเต้น พร้อมกับเนื้อร้องที่ฟังแล้วน่าเอ็นดู เหมือนมันจะมีความเว้าวอนเล็กๆ แฝงอยู่ ประมาณว่าฉันน่ะ เฝ้าแอบมองเธอกับเขาอยู่นะ ก็ไม่ได้จะอะไรมากมายหรอก แต่ถ้าเธอกับเขาไปกันไม่ได้ ฉันพอจะมีหวังบ้างป่ะ คิคิ

ผู้สาวขาเลาะของน้องลำไย จึงเป็นหนึ่งในเพลงลูกทุ่งไม่กี่เพลงที่ฉันชื่นชอบ ได้ยินเมื่อไหร่ เหมือนกับเพลงช่วยนำพาความกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวยมาสู่หัวใจ ฟังแล้วสนุกสนาน อารมณ์แจ่มใส

จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยเปิดน้องลำไยฟังตอนกวาดบ้าน ถูบ้าน แหม...วันนั้นปัดกวาดเช็ดถูแบบยิ้มย่องผ่องใสกันเลยทีเดียว นี่แหละค่ะ พลังแห่งผู้สาวขาเลาะ จากลำไย ไหทองคำ

ใครไม่เคยรู้จักน้องลำไย ไม่คุ้นหูกับเพลงนี้ แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่เห็นทีว่าคงไม่ต้องแนะนำหรอกมั้ง ก็เพลงออกจะโด่งดังขนาดนี้ ใครๆ ก็น่าจะรู้จักแหละ

ดูอย่างคนตกกระแสอย่างฉันเป็นตัวอย่างสิ เห็นมั้ยว่ายังอุตส่าห์รู้จักเพลงนี้กับเขาด้วย เพราะงั้น รับประกันความดัง ดังจริงๆ ดังแน่นอน คอนเฟิร์ม ทุบโต๊ะ ปึง! (แกจะทุบทำไมกันเล่า)

Source

ภาพประกอบ: Photo by Plush Design Studio from Pexels