บัตรคิวและหยดเลือด


ก่อนหน้านี้สักประมาณสองอาทิตย์ ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งไถโทรศัพท์มือถือเพื่ออ่านข้อความและดูรูปนู่นนี่นั่นไปตามเรื่อง มืออีกข้างก็หยิบอัลมอนด์อบเกลือใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ ไปด้วยความเอร็ดอร่อย

จังหวะหนึ่งที่ฉันกำลังเอามือไถหน้าจอ โทรศัพท์เกิดลื่นหลุดมือหล่นพื้น โดยที่ฉันจับเอาไว้ไม่ทัน ผลที่ตามมาคือ...หน้าจอร้าวไปสองจุด ตรงขอบโทรศัพท์ทั้งด้านขวาและซ้าย ฮือๆ บทเรียนคราวนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ควรกินไปด้วย ดูโทรศัพท์ไปด้วย

เนื่องจากรอยร้าวทั้งสองจุดที่เกิดขึ้น มีขนาดค่อนข้างเล็ก และตัวโทรศัพท์เองก็ยังคงใช้การได้ตามปกติ ฉันจึงยังใช้โทรศัพท์หน้าจอร้าวมาเรื่อยๆ ไม่ได้เอาไปเปลี่ยนหน้าจอใหม่แต่อย่างใด

บ่ายวันนี้ มีเหตุให้ฉันต้องแวะเข้าธนาคารแห่งหนึ่ง หลังจากได้บัตรคิวจากพนักงานเรียบร้อย เมื่อเงยหน้าดูตรงเคาน์เตอร์ให้บริการว่ากำลังรันไปถึงหมายเลขไหนแล้ว จิตใจก็ห่อเหี่ยว เพราะเหลืออีกประมาณล้านแปดคิวได้ กว่าจะถึงคิวของฉัน

เมื่อเป็นเช่นนั้น เลยไปนั่งรอคิวตรงเก้าอี้ที่ทางธนาคารจัดไว้ให้ลูกค้า ระหว่างนั้นก็เปิดกระเป๋าตังค์ กะว่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูอะไรเรื่อยเปื่อย ฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ

ทว่า...ยังไม่ทันได้ฆ่าเวลาอะไรทั้งสิ้น นิ้วของฉันก็ดันไปทิ่มโดนเศษกระจกที่แตกออกมาจากตัวโทรศัพท์มือถือหน้าจอร้าว แน่นอนว่ามันเจ็บยิ่งกว่าถูกมดกัด แต่จะแหกปากร้องก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวลูกค้าคนอื่นตกใจ (ยังคงมียางอายอยู่บ้าง)

ฉันจึงได้แต่นั่งพินิจพิจารณานิ้วโป้งมือขวาของตัวเอง หลังจากนั้นไม่นานเท่าไหร่ เลือดก็เริ่มไหลออกมา จากจุดสีแดงเล็กๆ คราวนี้เริ่มกลั่นตัวเป็นหยด ราวกับนิ้วกำลังร่ำไห้ จุดนั้นฉันนึกอยากได้กระดาษทิชชูมาซับเลือดมาก แต่ก็นึกได้ว่า ไม่ได้พกติดตัวมาด้วยเลย

เมื่อหันมองดูนิ้วโป้งอีกครั้ง เห็นหยดเลือดขยายขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เกือบจะหยดลงมาแล้ว เอาไงดี อยากจะสะกิดถามคุณน้องคนข้างๆ ว่ามีกระดาษทิชชูบ้างหรือไม่ แต่ก็เกรงใจน้องเค้า

จะไปถามหากระดาษทิชชูจากพนักงานของธนาคาร ก็ไม่กล้าอีก แน่ล่ะสิ ที่แกจะขอน่ะ กระดาษทิชชูนะ ไม่ใช่ใบโอนเงิน เหลือบมองหมายเลขคิว มันก็ไม่ขยับไปไหนซะที โอย...หรือฉันจะต้องเลือดออกหมดนิ้ว จนกลายเป็นวิญญาณเฝ้าเคาน์เตอร์ธนาคารนี้ฟระเนี่ย

สุดท้ายฉันเลยต้องใช้ขอบเสื้อยืดตัวเองเป็นที่ซับหยดเลือด ยังดีหน่อยที่วันนี้ไม่ได้ใส่เสื้อสีขาว ไม่อย่างนั้น คงจะเห็นหยดเลือดสีแดงชัดเจนกว่าเดิม นับเป็นการรอคิวไปพร้อมกับหยดเลือดที่ไหลริน โชคดีไปที่เลือดไหลไม่นานนักก็หยุด

ส่วนมือถือตัวแสบน่ะเหรอ หลังจากฝากผลงานเอาไว้กับนิ้วแม่โป้งของฉันแล้ว ก็ยังคงนอนสงบนิ่งแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่ในกระเป๋าถือตามเดิม ทิ้งให้ฉันได้แต่คิดในใจว่า คราวหน้าเวลาจับมือถือ จะต้องระวังให้มากกว่านี้ และที่แน่ๆ จะออกไปไหน ต้องไม่ลืมพกกระดาษทิชชูติดตัวมาด้วยล่ะ

Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels

Comments