ฉันเชื่อว่าเราทุกคนย่อมเคยมีวันพลาดๆ ด้วยกันแทบทั้งนั้น ส่วนจะพลาดในเรื่องเล็กน้อย หรือพลาดแบบไม่ค่อยเล็กน้อย น่าจะขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละคน
สำหรับฉันที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ก็มีวันพลาดกับเขาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใส่ชุดที่ไม่ค่อยจะเข้าท่าในสายตาเพื่อนร่วมงาน (แต่ฉันว่ามันก็แนวดีออกนะ) จนถูกออกปากแซว หรือว่าจะเป็นการลืมพกร่มติดตัวมาด้วยในวันทำงาน และที่ทำให้ช้ำชอกใจกว่านั้นคือมารู้ตัวก็เมื่อเจอกับฝนที่ตกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตาตอนหลังเลิกงาน
ความผิดพลาดบางอย่าง สามารถจัดการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น เช้าวันหนึ่งในระหว่างการเดินทางไปทำงาน ขณะที่ฉันกำลังเดินจ้ำอ้าวอย่างรวดเร็วบนสถานีรถไฟฟ้า อยู่ๆ พื้นรองเท้าที่ใส่ในวันนั้นก็อยากตีตัวออกจากฉัน เพราะมันได้แยกออกมาจนเกือบจะหลุดจากตัวรองเท้าอยู่รอมร่อ
อารมณ์ ณ จุดนั้น มันก็อายอยู่นะ หงุดหงิดอีกเล็กน้อยว่าทำไมแกจะต้องมาทำต้วเข้ากันไม่ได้กับฉันในช่วงเวลาเร่งรีบล่ะเฟ้ย แต่ความวิตกกังวลว่าจะเข้างานสายกลับมีมากกว่า ทำให้ฉันต้องกัดฟันเดินขาลากด้วยความทุลักทุเล (คือมันต้องลากขาเดินจริงๆ พร้อมทั้งต้องเลี่ยงการเดินยกขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าเดินยกขาบ่อยๆ เข้า พื้นรองเท้าต้องโบกมือลา ซาโยนาระฉันแน่นอน)
คาดว่าวันนั้น เพื่อนร่วมทางแถวนั้นบางคน อาจสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่กระโปรงบานลายดอกไม้ เสื้อลูกไม้สีขาว มีคาร์ดิแกนสีชมพูอ่อนคลุมทับอีกชั้น พร้อมถือกระเป๋า découpage ลายดอก (กระเป๋านี้แม่เป็นคนผลิต เกิดจากการไปเข้าคอร์สเรียนทำกระเป๋า แล้วก็เอาผลงานที่ทำมาให้ฉันได้ใช้) แสนจะเข้ากั๊น เข้ากันกับกระโปรงที่เธอใส่อยู่ เอ...แต่ดูไปดูมา เหตุไฉนท่าทางการเดินของเธอผู้นั้นจึงแปลกประหลาดเหลือเกิน
ยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่ฉันติดรองเท้าใส่เล่นเอาไว้ที่ทำงานหนึ่งคู่ ทำให้ไม่ต้องเดินขาลากอีกต่อไป พอถึงเวลาพักกลางวัน กินข้าวเสร็จด้วยความรวดเร็ว ฉันก็รีบแจ้นไปหาซื้อรองเท้าคู่ใหม่ที่แสนจะไฉไลกว่ารองเท้าสีชมพูพาสเทลคู่เดิม เพราะรองเท้าที่ไปสอยมาใหม่มีสีชมพู shocking pink แถมมีโบว์อันเล็กจิ๋วน่ารัก น่าเอ็นดูสีเขียวสดใสติดบนรองเท้าด้วย ดีใจจนต้องเรียกเพื่อนมาช่วยเป็นตากล้องจำเป็น เก็บภาพการแต่งตัวของฉันพร้อมรองเท้าคู่ใหม่ในวันนั้นด้วยความภาคภูมิใจ (แต่เพื่อนคงเอือมระอา)
ทว่า กับบางสถานการณ์ เมื่อตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งไปแล้ว จะเปลี่ยนใจไปเลือกอีกทาง ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป อย่างเช่นวันที่ฉันกำลังรอลิฟต์หลังจากเลิกเรียนพิเศษในช่วงเย็นอยู่บนชั้น 22 ของตึกแห่งหนึ่งในย่านธุรกิจ
ท่ามกลางผู้โดยสารมากมายที่ต่างก็เฝ้ารอไม่ต่างไปจากฉัน ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่แผงควบคุมบนลิฟต์ที่กำลังแจ้งหมายเลขชั้นว่าตอนนี้ลิฟต์สองตัวเล็กๆ ที่พวกเราตั้งหน้าตั้งตารออยู่นั้น เดินทางถึงชั้นไหนแล้ว
ถ้าฉันเป็นแผงควบคุมบนลิฟต์ ฉันไม่คิดว่าตนเองจะสามารถทนต่อสายตากดดันหลายคู่ที่จ้องมองมาได้ มันเป็นห้วงอารมณ์ของการรอคอยที่เจือปนด้วยความกดดัน เมื่อยืนรออยู่พักหนึ่ง ฉันจึงเริ่มหมดความอดทน เพราะถึงรอไป ก็ไม่รู้ว่าจะได้ลงลิฟต์รอบไหน เพราะจำนวนคนรอใช้บริการเยอะเหลือเกิน
เห็นเช่นนั้นแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินลงทางบันไดหนีไฟแทน ค่ะ คุณอ่านถูกต้องแล้วล่ะ ไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันเลือกการเดินลงบันไดจากชั้น 22 แทนการใช้ลิฟต์ โฮ...โง่อะไรอย่างนี้
ลงไปสองชั้น อารมณ์ยังคงแจ่มใสลั้ลลา แต่เมื่อเดินลงไปจนถึงประมาณชั้นที่สิบห้าสิบหกล่ะมั้ง ฉันก็เริ่มสำเหนียกได้ถึงความฉลาดน้อยของตัวเองขึ้นมา แกเฟอะฟะใช่มั้ยเนี่ย ถึงได้ตัดสินใจบ้าๆ แบบนั้น
จะกลับตัวตอนนั้นก็เห็นจะไม่ทันแล้วล่ะ เพราะถึงเปลี่ยนใจ อยากหันมาใช้ลิฟต์ ลิฟต์มันก็คงเต็มแน่นจากผู้โดยสารทั้งหลายที่รออยู่ชั้นบนนั่นแหละ (และแน่นอนว่าผู้คนเหล่านั้น ล้วนมีสติดีกว่าคนเอ๋อๆ อย่างฉัน)
จำได้ไม่ลืมเลยว่า เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างของตึกในค่ำวันนั้น ขาสั่นพั่บๆ เลยล่ะ ต้องยืนพักหายใจอยู่กลางทางเท้าริมถนน สูดอากาศยามค่ำ (ที่มีกลิ่นท่อไอเสียจากรถยนต์ลอยมาเข้าจมูก ชวนมึนเบลอยิ่งกว่าเดิม) เมื่อร่างกายและขาที่กะปลกกะเปลี้ยจากการโดนใช้งานอย่างไม่ชาญฉลาดเริ่มกลับเข้าสู่สภาพปกติ จึงออกเดินทางกลับบ้านต่อ
พร้อมกันนั้น ฉันก็คิดในใจไปด้วยว่าบรรดาผู้โดยสารชั้นบน น่าจะลงมาถึงชั้นล่างก่อนฉันเป็นเวลานานแล้วล่ะ รู้งี้อดทนต่ออีกสักนิด ยืนรออีกสักหน่อย ก็คงไม่ต้องมาทรมานสังขารยามค่ำหรอก
พลาดมากแก พลาดไปแล้ว ไม่น่าเลยจริงๆ แต่ก็นั่นแหละนะ อย่างน้อยในวันนั้น ฉันก็ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ (ถามว่าดีมั้ย ไม่เลย) ได้ลิ้มลองรสชาติความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง และจำมันไว้เป็นบทเรียน เพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่พลาดขึ้นมาอีกไงล่ะ อืม...ถ้าแกเลือกการเดินลงบันไดหนีไฟจากชั้นยี่สิบกว่าๆ ของตึกแทนการใช้ลิฟต์อีกล่ะก็ คงต้องไปเช็คสมองบ้างแล้วนะ
เพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเองในวันที่เจออะไรแย่ๆ หรือวันที่พลาด ฉันจะนึกถึงเพลง Bad Day ของ Daniel Powter แนะนำให้ดูมิวสิควีดีโอประกอบเพลงไปด้วย จากที่รู้สึกแย่อยู่ อาจจะเปลี่ยนเป็นความสดใสขึ้นมาบ้างก็ได้
Have a good one!
Source
ภาพประกอบ: Photo by rawpixel.com from Pexels
Comments
Post a Comment