กะทิบ้านอาหารไทยและขนม

เมื่อวานนี้ ฉันและครอบครัวมีโอกาสได้ไปลองทานอาหารร้าน “กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” ย่านตลิ่งชัน โดยก่อนหน้านี้ คุณน้าเชฟที่ขับรถผ่านแถวนั้นในช่วงค่ำ ได้สังเกตเห็นร้านที่เปิดไฟสว่าง จึงมาชักชวนสมาชิกภายในบ้านให้ไปลิ้มลองรสชาติอาหารร้านใหม่ มีการบอกเพิ่มเติมด้วยว่า ร้านนี้น่ะ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะแยะเลยนะ

ได้ยินดังนั้น ฉันนี่หูผึ่งทันที เริ่มเกิดความกะตือรือร้น อยากจะไปเห็นร้านว่าจะสวยสมกับคำโฆษณาของคุณน้าหรือไม่ พวกเราเดินทางไปถึงร้านประมาณหกโมงกว่าๆ ซึ่งเวลานั้น ยังคงมีแสงสว่างสำหรับการถ่ายรูป

เมื่อเดินเข้าร้าน จะเห็นว่าร้านนี้แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้มากมาย ดูร่มรื่น เย็นตาเย็นใจ ส่วนที่นั่งทานอาหารเป็นเรือนกระจกใส กว้างขวาง โล่งสบาย ดูแล้วไม่อึดอัด แต่ละโต๊ะมีขนาดใหญ่ นั่งกินข้าวได้อย่างสะดวก

จากการเดินดูรอบร้าน ทำให้เห็นจริงดังที่คุณน้าบอกไว้ ร้านนี้มีมุมให้ถ่ายรูปหลากหลายมุมมาก ใครชอบถ่ายรูป น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย (รวมทั้งฉันด้วย) มองไปทางไหน จะได้เห็นบรรดาของประดับตกแต่งที่ล้วนใช้เป็นองค์ประกอบในการถ่ายรูปให้สวยงามได้ทั้งสิ้น

ฉันถูกใจกับเจ้านกฮูกที่ทางร้านนำมาประดับตามจุดต่างๆ บริเวณรอบนอกเรือนกระจก ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก หรือจะเป็นภาพวาดลายดอกไม้ดอกใหญ่ในโทนสีแดงสดใสบนกำแพงด้านหนึ่งของร้าน ก็นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถดึงดูดสายตาลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ภาพวาดกระต่ายบนขั้นบันไดในโซนม้านั่งด้านนอกก็น่าเอ็นดู รวมไปถึงรูปปั้นอีกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นที่มีน้ำพุ รูปปั้นฝูงเป็ด รูปปั้นกวาง โอ๊ย...พิมพ์ไม่หมดหรอก นี่ฉันยังเดินสำรวจไม่ทั่วร้านเลยนะ ขาดในส่วนที่เป็นลานเด็กเล่น เพราะตอนนั้น เริ่มหิวข้าวขึ้นมาแล้ว เลยตัดสินใจเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร

มาพูดเรื่องอาหารกันบ้าง เมนูที่ถูกใจฉันได้แก่ แกงส้มชะอมกุ้ง น้ำแกงรสชาติกลมกล่อม ตักราดข้าวอร่อยเลย แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายไข่เค็มก็ใช้ได้ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาก็ดีอยู่ ส่วนเมนูเด็ดอย่างคอหมูทอดจิ้มแจ่ว ฉันว่าแป้งเยอะไปนิดนึงนะ

หมูโสร่งก็เหมือนกัน รู้สึกว่าตรงส่วนเส้นหมี่ทอด มันจะแข็งไปหน่อย กัดเข้าปากแล้วกลืนลงคอลำบากเล็กน้อย แต่เมนูที่อยากแนะนำคือหมูพริกขี้หนู รูปร่างหน้าตาจะก้ำกึ่งระหว่างทอดมันปลากรายกับหมูก้อนทอดกระเทียม แต่เปลี่ยนจากกระเทียมเป็นการใส่พริกขี้หนู

กินเข้าไปคำแรก ได้รสชาติหอมของเนื้อหมูที่หมักไว้แล้ว ต่อมาจะสัมผัสได้ถึงความเผ็ดจี๊ด เนื่องจากฉันไม่สันทัดกับอาหารรสเผ็ด กินไปแค่หนึ่งคำ เลยต้องหยุด แล้วตักไปให้คุณน้ากินแทน แต่จากการได้ลองชิมเพียงคำเดียวนี่แหละ ฉันว่ารสชาติมันก็อร่อยดีนะ คนที่ทานเผ็ดเป็นปกติ น่าจะถูกใจเมนูนี้

เสียดายที่ไม่ทันได้ถ่ายรูปอาหารเอาไว้เลยสักรูป เพราะทันทีที่อาหารมาถึง สมาชิกทุกคนก็หิวกันแล้ว พนักงานเอาจานวางลงบนโต๊ะปุ๊บ ฉันก็เอาส้อมจ้วงอาหารทันที ลืมไปหมดเลยว่าควรจะต้องถ่ายรูปเอาไว้ก่อน แหะๆ

สำหรับของหวาน ฉันไม่ได้ลองสั่งมาชิม เพราะแค่อาหารคาวก็อิ่มแล้ว เลยไม่สามารถแนะนำเมนูไหนได้ แต่เท่าที่อ่านเมนูของหวานแบบผ่านๆ ส่วนมากก็จะเป็นขนมไทย จำพวกข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวดำเปียก กล้วยไข่เชื่อม สาคูอัญชัญ ลอดช่อง อะไรประมาณนี้แหละ

อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ อัธยาศัยอันดีของคุณเจ้าของร้านที่คอยจัดการควบคุมคิวของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มาเยือนที่ร้าน เธอดูเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี เห็นถึงความตั้งใจในการให้บริการ

ช่วงที่ฉันกินข้าวเสร็จ ได้เดินออกมาถ่ายรูปบริเวณร้านในช่วงหัวค่ำ เห็นต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งเตะตา เลยยกกล้องเล็งมุมเหมาะๆ เพื่อถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก หลังจากถ่ายเสร็จเรียบร้อย หันมาเจอคุณเจ้าของร้านที่ส่งยิ้มมาให้ฉัน เธอเลยบอกกับฉันว่า ต้นที่ฉันเพิ่งจะถ่ายรูปไปน่ะ มีชื่อว่าต้นเสี้ยว มีลักษณะเด่นคือใบจะมีรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ พร้อมกันนั้น เธอก็ก้มลงไปเก็บใบของต้นเสี้ยวที่ร่วงหล่นตามพื้นขึ้นมาให้ฉันได้ดูประกอบคำอธิบาย

หลังจากนั้น ฉันจึงได้คุยกับคุณเจ้าของร้านต่ออีกเล็กน้อย จนได้ความว่าทางร้านเพิ่งเปิดให้บริการมาได้สามเดือน ฉันได้แสดงความประหลาดใจด้วยการเล่าให้เธอฟังว่า หากมองจากถนนด้านนอก ไม่รู้เลยว่าข้างในร้านจะมีพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้ พร้อมกับกล่าวชมว่าทางร้านตกแต่งสถานที่ได้สวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูป เป็นการปิดท้ายบทสนทนา

ใครผ่านไปแถวตลิ่งชัน (ร้านอยู่ตรงข้าม สน. ตลิ่งชัน) ลองเข้าไปอุดหนุนทางร้านกันได้ จันทร์-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:30-22:00 ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เปิดเร็วขึ้นมาหน่อย 10:00-22:30 อ้อ! คุณเจ้าของร้านยังได้แนะนำมาด้วยว่า หากจะมาทานที่ร้านช่วงวันหยุด โทรมาจองที่นั่งก่อนน่าจะสะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากอิ่มท้องแล้ว สายถ่ายรูปนี่ไม่ควรพลาด รับรองว่าคุณจะได้รูปสวยๆ กลับบ้านเป็นของที่ระลึกหลายต่อหลายรูป เอาไว้นั่งดูจนตาลาย เหมือนกับฉันในตอนนี้เลยล่ะ