ขนมดับร้อน


ยังไม่ทันเข้าเดือนเมษายน อากาศยังร้อนดุเดือดได้ถึงขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อย่างเข้าเดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ มันจะระอุขนาดไหนกันหนอ และเพราะความร้อนในระดับไม่เกรงใจมนุษย์ ในวันนี้ฉันจึงได้เห็นสเตตัสของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง มีเนื้อความประมาณว่าสภาพอากาศที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ น่าจะเปรียบได้กับการซ้อมตกนรกไปพลางๆ อ่านแล้วได้แต่นั่งขำกับความคิดของมัน

แต่มันร้อนหนักหนาสาหัสเอาจริงๆ นะ ขนาดเมื่อคืน หลังจากฉันอาบน้ำประแป้ง เย็นสดชื่นสบายใจ เดินลงมาชั้นล่างเพื่อหาน้ำดื่ม แค่ชั่วระยะเวลาเดินจากชั้นบนลงมาชั้นล่างนี่ ยังรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผมและลำคอ ร้อนมันทั้งวัน ร้อนมันเข้าไป ร้อนได้ตั้งแต่เช้ายันดึก

อาหารมื้อเช้าคลายร้อนของฉันในวันนี้คือ คอร์นเฟลกคาราเมลเจ้าโปรด นอกจากแผ่นคอร์นเฟลกเคลือบด้วยคาราเมลรสหอมหวานแล้ว ยังใส่ลูกเกดผิวสัมผัสนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง กาหยู (เรียกแบบนี้ บางคนอาจมีงง ต้องบอกเสริมด้วยว่ามันคือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Cashew Nut นั่นเอง) และอัลมอนด์

เป็นอาหารง่ายๆ แต่อร่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากกินกับนมสดแช่เย็นเจี๊ยบจากตู้เย็น ตักกินไปด้วยความชื่นอกชื่นใจ ได้ทั้งรสหอมหวานจากคาราเมล ความกรุบกรอบจากทั้งกาหยูและอัลมอนด์ ความนิ่มจากลูกเกด และความเย็นสดชื่นจากนมสด

มื้อเช้าผ่านไปด้วยดี จนเวลาเดินมาถึงมื้อกลางวัน อย่างที่ฉันเคยเล่าไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนแบบหนักหนาสาหัสขนาดนี้ เลยพาลกินอะไรไม่ลง กินข้าวก็ไม่ค่อยอร่อยเหมือนปกติ

ดังนั้น มื้อกลางวันของฉันในวันนี้จึงได้แก่ เฉาก๊วยจากบางรักที่คุณน้าเชฟซื้อมาให้ เฉาก๊วยเนี่ย ถือเป็นหนึ่งในขนมที่ฉันชอบมากเลยล่ะ ส่วนมากที่กินเป็นประจำจะเป็นเฉาก๊วยชากังราว รสสัมผัสนุ่มๆ หนึบๆ เคี้ยวอร่อย

ส่วนเฉาก๊วยจากบางรักนั้น จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเฉาก๊วยชากังราว เวลาไปซื้อ คนขายจะตักเนื้อเฉาก๊วยสีดำก้อนใหญ่ และแบ่งใส่ถุงเตรียมรอขายไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเฉาก๊วยจากบางรัก จะไม่ใช่เฉาก๊วยในน้ำเชื่อมเหมือนกับเฉาก๊วยชากังราวนะ เพราะมันจะมีแค่เนื้อเฉาก๊วยดำๆ เนี่ยแหละ

เวลากิน เราต้องนำมาใส่น้ำตาลทรายแดงเอาเอง (หรืออาจจะขอซื้อจากคนขายด้วยก็ได้มั้ง ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เพราะปกติก็ซื้อมาแต่เนื้อเฉาก๊วย) หลังจากใส่น้ำตาลทรายแดงเข้าไปเรียบร้อย รอสักพักให้น้ำตาลละลายเข้ากันกับเนื้อเฉาก๊วย เจ้าน้ำตาลที่ละลายนั่นแหละที่จะกลายเป็นน้ำเชื่อม

เนื้อเฉาก๊วยบางรักจะไม่หนึบเท่ากับเฉาก๊วยชากังราว แต่เคี้ยวแล้วนุ่มละมุนลิ้นมากกว่า ตามความเห็นของฉัน มันก็อร่อยด้วยกันทั้งสองแบบเลย แต่จะให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันเล็กน้อย

ยิ่งถ้าได้กินกับน้ำแข็งทุบนะ อู๊ย...แจ่มมาก หวานเย็น ชื่นใจ ดับกระหาย คลายร้อน ยิ่งกินยิ่งอร่อย มันดีต่อใจจริงๆ เป็นขนมช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี กินแล้วอารมณ์แจ่มใส มีพลังกลับมาสู้กับอากาศร้อนระอุขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง

Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels

Comments