ทรายหวาน

อาหารเย็นในวันนี้ของฉันคือแอปเปิลเขียวและกีวีอย่างละสองลูก ระหว่างนั่งเคี้ยวแอปเปิล ฉันก็นึกไปถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยดูเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนั้นก็คือ City of Angels ที่มี Nicolas Cage และ Meg Ryan แสดงนำ

เรื่องราวของเทวดาหนุ่ม ผู้ทำหน้าที่ชี้ทางให้กับมนุษย์ที่กำลังจะลาจากโลก ด้วยหน้าที่การงานของเขา จึงทำให้ได้พบกับนางเอกของเรื่องที่เป็นแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล

วันหนึ่งนางเอกกำลังพยายามช่วยชีวิตคนไข้ของเธออย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สำเร็จ พระเอกเทวดา (นี่ไม่ใช่คำพูดยกยอแต่อย่างใด เพราะพระเอกเป็นเทวดาจริงๆ) ผู้ซึ่งทำหน้าที่ของตนอยู่ ได้เห็นความมุ่งมั่นของนางเอก ก็เลยถูกตาต้องใจนางเอกเข้า

ส่วนฟากนางเอกนั้น เมื่อได้เจอกับพระเอกหลายครั้ง ก็เริ่มสนใจและสงสัยในตัวพระเอก อย่างเช่นว่าทำไมเขาถึงใส่แต่เสื้อผ้าชุดเดิมๆ เขาทำงานทำการอะไรกันนะ เป็นโฮมเลสหรือจะเป็นมือกลองรึป่าว

มีฉากหนึ่งที่นางเอกทำการรักษาคนไข้ของเธอ ซึ่งคนไข้ชายผู้นั้นก็เคยเป็นเทวดามาก่อนแต่เขากลับสละความเป็นอมตะ และเลือกที่จะเป็นมนุษย์แทน นั่นจึงทำให้เขารู้เรื่องราวความเป็นมาของพระเอกและเหล่าเทวดาทั้งหลายเป็นอย่างดี

ซีนดังกล่าวนั้น ทำฉันหลุดขำออกมาได้ภายใต้สถานการณ์เคร่งเครียด เนื่องจากขณะที่นางเอกทำการรักษาคนไข้ของเธอไป เธอก็พูดขู่คนไข้ว่าอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปล่ะ จนกว่าเขาจะบอกเบอร์โทรศัพท์ของพระเอกให้กับเธอก่อน

อีกหนึ่งฉากที่ฉันประทับใจเป็นพิเศษ เป็นตอนที่พระเอกเฝ้ามองนางเอกกินลูกแพร์ด้วยความฉงนใจ (เนื่องจากพระเอกเป็นเทวดา เขาจึงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์โลก) เห็นดังนั้น เขาเลยถามนางเอกว่าลูกแพร์มีรสชาติเป็นอย่างไร โดยบอกให้นางเอกบรรยายในแบบ Hemingway ซะด้วยนะ (เทวดาก็เรื่องมากได้เหมือนกัน)

คำตอบที่นางเอกบอกกับพระเอกเนี่ย มันจับใจมาก เป็นการอธิบายที่ทำเอาผู้ชมอย่างฉันรู้สึกเสมือนว่ากำลังเคี้ยวลูกแพร์อยู่ในปากเลยล่ะ กับคำตอบที่ว่า “Sweet, juicy, soft on your tongue, grainy like a sugary sand that dissolves in your mouth.” โห...ใช้ภาษาได้สวยอะไรอย่างนั้น ฟังแล้วดูนุ่มนวล ละมุนละไม

คิดตามเป็นภาษาไทยไปด้วยแล้ว แทบจะออกไปหาซื้อลูกแพร์มากินบัดเดี๋ยวนั้นกันเลยทีเดียว “หวาน ฉ่ำ นุ่มลิ้น เสมือนทรายเม็ดเล็กละเอียดรสชาติหวานที่ละลายในปาก” ฮือๆ ฟังแล้วอยากกินลูกแพร์บ้าง

มาพูดถึงเรื่องเพลงกันบ้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีเพลงประกอบโดนใจอยู่หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น If God Will Send His Angels (U2), Angel (Sarah McLachlan), Uninvited (Alanis Morissette) และเพลงที่ฉันชอบมากอีกหนึ่งเพลงอย่าง Iris จากวง Goo Goo Dolls

จำได้ว่าสมัยนั้น เพลง Iris นี่ดังมาก ได้ยินเมื่อไหร่ ฉันจะต้องรอฟังประโยคเด็ดในเพลงที่ว่า “And I don't want the world to see me. 'Cause I don't think that they'd understand. When everything's meant to be broken, I just want you to know who I am.”

ตอนจบของภาพยนตร์ เป็นอะไรที่ค่อนข้างหักมุมพอสมควร แบบไม่นึกว่าจะลงท้ายแบบนี้ นี่ก็ผ่านมาสองทศวรรษเข้าไปแล้ว แต่ฉันก็ยังคงจดจำเรื่องราวในภาพยนตร์ได้อยู่

นั่งคิดไปเรื่อยๆ จนแอปเปิลกับกีวีอันตรธานหาย (ลงท้อง) ไปหมดแล้ว ยิ่งทำให้นึกอยากกินลูกแพร์เข้าไปอีก เอ...แต่ว่าลูกแพร์ไม่ค่อยมีขายเลย สนใจจะเอาฝรั่งกิมจูไปเคี้ยวแทนก่อนได้มะ ถือซะว่าเป็นสินค้าทดแทน ฟีลมันก็น่าจะพอได้เหมือนกันนะ

Source

ภาพประกอบ: Photo by Eneida Nieves from Pexels