หน่อไม้นี้ที่รัก

หากมีใครถามฉันว่ามีผักอะไรที่ไม่กินบ้าง คิดว่าอาจจะต้องฟังคำตอบยืดยาว เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ควรเปลี่ยนเป็นการบอกไปเลยว่าฉันชอบกินผักอะไรบ้าง แบบนี้น่าจะได้ข้อมูลรวดเร็วกว่า

ตั้งแต่โตมา มีผักจำนวนน้อยนิดมากที่ฉันสามารถกินได้แบบเอร็ดอร่อย อย่างเช่น ผักบุ้งไฟแดง ผักกระเฉดไฟแดง ชะอมชุบไข่ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ถั่วลันเตาผัดน้ำมันหอย เป็นต้น นอกเหนือไปจากนี้ เห็นจะต้องขอบาย เพราะไม่ใช่สายกินผัก

ในจำนวนผักไม่กี่ชนิดที่ตรงใจ หน่อไม้ก็เป็นผักอย่างหนึ่งที่ฉันชอบ (ว่าแต่หน่อไม้นื่ถือว่าเป็นผักใช่มั้ย) เวลาที่บ้านได้หน่อไม้อ่อนๆ มา แม่กับน้าจะเอามาทำหน่อไม้ผัดไข่ เริ่มด้วยการหั่นหน่อไม้เป็นเส้นให้มีความยาวพอเหมาะ ตั้งน้ำมันให้ร้อน ตอกไข่ใส่กระทะ จากนั้นก็ใส่หน่อไม้ ผัดให้เข้ากันกับไข่ที่ทอดไว้ก่อนหน้า เอามาคลุกข้าวกินตอนร้อนๆ อร่อยนักแหละ

หน่อไม้ผัดไข่สำหรับฉันจะไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่อง (มีอะไรที่แกเหมือนชาวบ้านเค้าบ้างเนี่ย) เพราะไม่มีการใส่กระเทียมบุบลงไปผัดกับน้ำมันก่อน ฉันจะขอแม่กับน้าเอาไว้ล่วงหน้าเลยว่าจานของฉัน ไม่เอากระเทียม เนื่องจากไม่ค่อยชอบกลิ่นกระเทียมที่ผัดกับอาหาร ซึ่งถ้าคุณน้าเชฟเป็นคนผัดให้ จะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าวันไหนแม่เป็นคนผัด จะต้องได้ยินเสียงบ่นของแม่แบบประปราย เดาว่ามันคงจะค้านกับความรู้สึกของแม่ที่คิดว่าควรจะต้องใส่กระเทียมลงไป เพื่อให้ได้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น (ก็ฉันว่ามันไม่หอมนี่)

อีกหนึ่งเมนูจากหน่อไม้ที่ฉันชอบมากเลยก็คือ แกงจืดหน่อไม้ เมนูนี้คุณน้าเชฟทำอร่อยมาก นอกจากหน่อไม้ต้องอ่อน ไม่แข็งจนเป็นเสี้ยน เคล็ดลับอีกอย่างของความอร่อยอยู่ที่การเคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมูนี่แหละ

คุณน้าจะใส่รากผักชีและพริกไทยลงไปเพื่อเพิ่มความหอมให้กับน้ำซุป นอกจากนี้ ยังใส่กุ้งแห้งตัวเล็กลงไปด้วย กุ้งแห้งนี่จะทำให้น้ำซุปหวานกลมกล่อม อร่อยกว่าเดิม แบบตักน้ำซดเข้าปากแล้ว จะต้องร้อง อ้า! ขึ้นมาด้วยความชื่นใจเลยล่ะ

ช่วงนี้อากาศร้อนมากถึงมากที่สุด กลางวันนี่เหมือนกับอยู่ในเตาอบ โห! นี่ขนาดยังไม่ถึงเดือนเมษาเลย ยังร้อนระดับนี้แล้ว ถ้าเมษายนมาเยือนเมื่อไหร่ ไม่เดือดจนระอุไปเลยเหรอ และเมื่ออากาศร้อน ฉันจะไม่ค่อยเจริญอาหาร ก็มันร้อนซะจนไม่นึกอยากกินอะไรเลย หิวแต่น้ำเย็นๆ น้ำแข็ง ไอติม อาหารตระกูลเย็น เอามาดับกระหายคลายร้อน

ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเก็บแกงจืดหน่อไม้เอาไว้กินเป็นอาหารเย็น จะให้นั่งซดน้ำซุปร้อนๆ ตอนกลางวันที่ร้อนตับแลบ น่าจะไม่ไหว เดี๋ยวได้สุกกันพอดี

การได้ซดน้ำซุปรสอูมามิเป็นอาหารเย็น ซึ่งตอนนั้นแสงแดดไม่แรงจัดแล้ว ดีกว่าการกินตอนมื้อกลางวันแน่ๆ เพราะไม่ต้องกินไป คอยซับเหงื่อที่ไหลออกมาเป็นระยะไปด้วยไงล่ะ

Source

ภาพประกอบ: Photo by Flickr from Pexels