ช่วงสายของวันนี้ ขณะที่ฉันกำลังนั่งเช็คความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ทำให้ได้เห็นโพสต์หนึ่งของคนรู้จัก โดยโพสต์ดังกล่าว มีข้อความเพียงแค่หนึ่งประโยคเท่านั้น แต่สิ่งเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากประโยคเพียงประโยคเดียวนั้น ยังมีรูปภาพอีกประมาณสามสี่รูปประกอบโพสต์
เนื่องจากข้อความที่สั้นเพียงหนึ่งประโยค ซึ่งไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากมายเท่าไหร่นัก และรูปภาพที่เห็นก็สามารถตีความไปได้หลากหลาย ฟันธงไม่ได้แน่นอนว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้หรือไม่
นั่นทำให้ฉันเกิดอาการลังเลขึ้นมาทันทีว่าควรกดปุ่มไหนดี ระหว่าง ‘like’ กับ ‘wow’ ในตอนนั้น ความคิดของฉันก็แว้บไปถึงภาพยนตร์เรื่อง Armageddon ในฉากที่นักบินอวกาศต้องทำการตัดสินใจว่าจะเลือกตัดเส้นลวดสีอะไร ระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน (อืม...แค่โพสต์เดียว แกมโนไปได้ไกลมากเลยนะ)
ฉากตัดเส้นลวดในภาพยนตร์ เป็นซีนที่สำคัญมากทีเดียว เพราะหากเลือกตัดลวดผิดเส้น ตัวนักบินผู้ทำการตัดสินใจและเหล่าลูกทีมคงได้ม่องเท่งนอกโลกกันหมด แค่นั้นยังไม่พอ ผู้คนบนโลกก็ไม่น่ารอดเช่นเดียวกัน
แต่สำหรับฉัน สถานการณ์มันคงไม่ได้รุนแรงระดับนั้น (แน่นอนอยู่แล้ว ก็แกไม่ได้กำลังกอบกู้โลกนี่หว่า) เพียงแต่ฉันเกิดความคิดขึ้นมาว่า การที่จะกดปุ่มถูกใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตัวเองควรจะมีข้อมูลเพียงพอในการช่วยตัดสินใจว่าควรจะถูกใจกับเรื่องราวนั้นหรือไม่
คิดไปคิดมา จึงทำให้ฉันเปลี่ยนใจไปกดปุ่มประหลาดใจแทน นั่นดูจะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนอ่านเคยเกิดความรู้สึกลังเล ไม่แน่ใจแบบนี้กันบ้างไหมกับการเลือกกดปุ่มแสดงอารมณ์ความรู้สึกในสังคมออนไลน์
กับเรื่องบางเรื่องนั้น การกดปุ่มถูกใจ อาจดูไม่ค่อยเข้ากับบริบทหรือตัวเรื่องราวที่เจ้าของโพสต์ต้องการสื่อ หรือบางครั้งการกดปุ่มหัวเราะ หรือปุ่มโกรธจนหน้าแดง ก็เหมือนจะไม่ใช่ตัวเลือกที่สามารถสื่ออารมณ์ได้ตรงใจฉัน
เอ๊ะ! เรื่องมากจริง แล้วแกจะกดปุ่มไหนกันเล่า ถึงตรงนี้ คุณ Mark Zuckerberg อาจกุมหัว พร้อมกับนึกไปด้วยว่า ตรูอุตส่าห์ทำปุ่มแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้ตั้งหลายแบบ แกจะเลือกอันที่ถูกใจสักอันไม่ได้เชียวเรอะ
เอาน่า...ถึงนี่จะไม่ใช่การต่อสู้กับอุกกาบาตที่กำลังพุ่งตรงมายังโลกมนุษย์ แต่อย่างน้อยในวันนี้ ฉันก็ได้กดปุ่มด้วยความระมัดระวังเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะนะ
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment