Roast


วันนี้จะมาแนะนำร้านอาหารถูกใจย่านทองหล่อกันสักหน่อย นั่นก็คือ Roast ฉันเป็นลูกค้าของร้านนี้ตั้งแต่ร้านยังตั้งอยู่ที่ Seenspace ในซอยทองหล่อ 13 และเมื่อทางร้านได้ย้ายไปที่ใหม่ ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่เดิมมากเท่าไหร่นัก โดยไปอยู่ที่ The COMMONS ซอยทองหล่อ 17 ฉันก็ยังคงตามไปกิน ก็มันติดใจรสชาติอาหารนี่นะ ย้ายไปไหนก็ต้องตามไปแหละ

Roast เป็นร้านอาหารฝรั่ง อาหารที่เด่นดังของทางร้านจะเป็นพวก brunch และพวกขนมหวาน ฉันรู้จักร้านนี้จากการเห็นรูปภาพเมนูดังของร้านอย่าง Strawberry Waffle แบบแค่เห็นรูป น้ำลายก็สอและน้ำย่อยในกระเพาะก็เริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งทันที

ภาพของสตรอร์เบอร์รีสีแดงสด ชิ้นไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปที่ผสมรวมกับเนื้อครีมสีขาวของไส้ในที่อยู่ในแผ่นวาฟเฟิลที่ถูกพับครึ่งไว้ มีน้ำตาลไอซิ่งโรยหน้าเล็กน้อย เสิร์ฟมาพร้อมกันกับไอศกรีมรสวานิลลา ซึ่งอันที่จริงแล้ว วานิลลาไม่ใช่ไอศกรีมรสโปรดของฉันหรอกนะ แต่เป็นเพราะเจ้าสตรอร์เบอร์รีที่อยู่ในวาฟเฟิล รวมไปถึงบางส่วนที่กระเด็นอยู่นอกจาน (มันไม่ได้กระเด็นนะแก แต่มันคือการตกแต่งประดับประดาจานให้ดูสวยงามต่างหาก) เป็นสิ่งดึงดูด แสนจะล่อตาล่อใจให้ฉันเกิดอยากทานขึ้นมาเลยทีเดียว

เมนูของหวานตัวนี้แหละที่ทำให้ฉันต้องขวนขวายหาข้อมูลร้านยกใหญ่ แบบอยากจะกินขึ้นมาในบัดดล หลังจากทราบชื่อและที่ตั้งของร้านแล้ว ฉันก็ยังค้นหาเพิ่มเติมด้วยการดูภาพเมนูอื่นๆ ของทางร้านว่ามีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ไหนๆ เมื่อคิดว่าจะไปเยือนร้านแล้ว มันก็ควรจะต้องสืบหาบ้างว่าเมนูเด่น อาหารแนะนำของร้านนี้มีอะไรกันบ้าง

ยิ่งค้นหาและได้เห็นภาพอาหารหลากหลายอย่างผ่านตา และที่ร้ายคือเป็นการเปิดดูตอนท้องกำลังว่างเนี่ย มันคือความทรมาน แบบเห็นภาพอาหารแล้ว อันนั้นก็อยากกิน อันนี้ก็ดูดี อันนู้นก็น่าสนนะ

เมื่อสบโอกาส ฉันจึงได้ไปเยือนร้านนี้ นอกเหนือไปจากของหวานอย่าง Strawberry Waffle ที่ตั้งใจจะสั่งมากินให้ได้แล้ว ฉันก็ยังอยากลองเมนูที่มีชื่อว่า Roast Breakfast ด้วย นี่เป็นเมนู brunch ซึ่งประกอบไปด้วยไข่ 2 ฟองที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากรับประทานแบบไหน จากนั้นก็เป็นการเลือกระหว่าง smoked salmon กับ prosciutto รวมไปถึงเครื่องดื่มที่ให้เลือกระหว่างชาหรือกาแฟ

ที่ร่ายมานี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดของอาหารจานนี้นะ เพราะยังมีอาหารส่วนที่ลูกค้าไม่ต้องเลือกแต่รวมอยู่ในจานอย่างเบคอนทอด 2 เส้น บาแก็ตปิ้งอีก 2 แผ่น มะเขือเทศย่างผ่าซีก 1 ลูก รวมไปถึงเห็ดแชมปิญองกับมันฝรั่งผัดเนยอีกจำนวนหนึ่ง

โดยฉันได้เลือก scrambled eggs, smoked salmon และเลือกดื่ม Earl Grey ราคาอาหารจานนี้ 400 บาท ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นชุดอาหารเช้าได้เลยนะ แบบสั่งเมนูนี้มากินเพียงอย่างเดียว อิ่มคุ้มราคาแน่นอน สำหรับใครที่กระเพาะไม่จุ ขอแนะนำว่าไม่ควรสั่งเมนูนี้มาทานคนเดียว เพราะคงกินไม่หมด เสียดายของ ที่สำคัญคืออาจจะทำให้คุณพลอยอดกินเมนูอื่นๆ เนื่องจากความอิ่มเกินพอดี

แต่สำหรับฉันที่ตั้งใจว่ายังไงก็จะต้องสั่ง Strawberry Waffle มากินให้ได้ และอาจจะเป็นเพราะวันนั้นไม่ได้กินอะไรมาก่อนหน้า ทำให้เมื่อกิน Roast Breakfast เสร็จเรียบร้อย ยังพอจะมีที่ว่างในกระเพาะเหลือเล็กน้อยสำหรับเมนูของหวาน (ลืมบอกไป เจ้า Roast Breakfast นี่ สำหรับฉันแล้ว คิดว่ารสชาติอร่อยใช้ได้เลยนะ แบบถ้าไปร้านนี้เมื่อไหร่ ก็จะสั่งแต่เมนูนี้นี่แหละ รักเดียวใจเดียว)

สำหรับของหวานที่ตั้งใจมากินมากอย่าง Strawberry Waffle มันก็อร่อยนะ (ทำไมให้ความรู้สึกเหมือนแกไม่เต็มใจจะชมล่ะ) แต่อาจจะเป็นเพราะวันนั้น ฉันอิ่มพอสมควรจากการกินชุดอาหารเช้าสำหรับคนกระเพาะเหล็กเข้าไปแล้ว ทำให้ลิ้นอาจจะไม่ค่อยรับรู้รสของหวานอีกต่อไป และอาจเพราะเป็นไอศกรีมวานิลลาก็เป็นได้ ฉันเลยค่อนข้างเฉยๆ กับเมนูของหวานตัวนี้

จากการไปเยือนครั้งแรกและติดใจเมนู brunch ทำให้ฉันกลับมาเยือนร้านนี้อีกหลายๆ ครั้ง และได้ค้นพบเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีรสชาติอร่อย อย่างเช่น Truffle Alfredo ที่เป็นเส้นพาสตาแบบ tagliatelle ที่ทางร้านทำเอง คลุกเคล้ากับส่วนผสมอย่างเบคอนและเห็ดแชมปิญองและมีชีสเส้นๆ โรยหน้า เพียงแค่ตักชิมคำแรก จะได้กลิ่นหอมของ truffle อบอวลอยู่ในปากเลย อืม...อุ่น หอม อร่อยจัง

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ทางร้านได้ออกเมนูพิเศษที่ไม่ได้ทำเป็นประจำ ฉันจำชื่อเมนูไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าเป็นปลาย่างแบบทั้งตัวเลย ดูจากรูปแล้วน่ากินมาก ก. ไก่ล้านตัว เมื่ออดรนทนไม่ได้ ฉันจึงโทรไปที่ร้าน เพื่อขอจองที่นั่งในตอนเย็น เมื่อการจองที่นั่งผ่านไปด้วยดี ในช่วงบ่ายวันทำงานวันนั้น ฉันจึงนั่งทำงานไปด้วย เฝ้ารอเวลาเลิกงานไปด้วยอย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่เลิกงาน ฉันนี่ตรงดิ่ง วิ่งแจ้นไปรถไฟฟ้า เพื่อจะเดินทางไปกินอาหารแบบลั้ลลา เบิกบานใจ

ไปถึงร้าน แจ้งชื่อกับพนักงานในร้าน แล้วก็ขอเมนูมาเปิดดูพอเป็นพิธี (ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะกินปลาไง แต่ขอเมนูเพื่อแก้เขิน) เปิดไปเปิดมาสักพัก ก็เงยหน้าขึ้นสั่งเจ้าเมนูปลากับพนักงาน คุณน้องแจ้งกลับมาว่า ถ้าเป็นเมนูนี้ ต้องใช้เวลาเตรียมประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงนะคะ ได้ยินแล้ว ฉันแอบลังเลอยู่ในใจนิดนึง แต่ก็ไม่ไขว้เขว จากนั้นจึงยืนยันกับคุณน้องพนักงานว่ายังไงพี่ก็จะเอาเมนูนี้แหละค่ะ

เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ อู๊ย...อยากจะยิ้มและตะโกนด้วยความสมหวัง แบบมันหน้าตาเหมือนในรูปที่เคยเห็นเด๊ะเลย จับส้อมและมีดขึ้นมาเตรียมพิฆาตปลาทันใด เมื่อหั่นปลา ตักเข้าปาก โอ๊ย! ทำไมมันอร่อยอย่างนี้นะ โชคดีจริงๆ ไม่เสียแรงที่รีบถ่อมาจากที่ทำงานเล้ยยย เป็นอันว่าวันนั้นฉันนั่งกินปลาตัวนั้นอย่างเอร็ดอร่อยตามลำพังอยู่ที่โต๊ะที่จองไว้ ท่ามกลางการ (แอบ) มองของพนักงานในร้านสองสามคนที่อยู่แถวนั้น

ขณะที่นั่งเคี้ยวปลาไปก็คิดในใจไปด้วย เอ...น้องมองพี่ทำไมกันเหรอ คือมากินคนเดียวในเย็นวันธรรมดานี่มันก็คงดูแปลกตาพอสมควรอยู่แล้ว และฉันคาดว่าเมนูที่ฉันสั่งก็คงไม่ค่อยมีคนสั่งมากินเท่าไหร่ เพราะอาจจะต้องใช้เวลาในการปรุงนานพอสมควร ยิ่งสั่งมากินคนเดียวนี่ มันก็คงยิ่งดูแปลก คุณน้องพนักงานเลยยืนจ้อง อาจจะกำลังลุ้นว่า ยัยผู้หญิงประหลาดนี่มันจะกินหมดมั๊ยนะ

ไม่ต้องสงสัยไปคุณน้อง ดูต่อไปเถอะ เดี๋ยวคุณพี่จะสวาปามปลาตัวนี้ให้เรียบ แบบไม่เหลือซากเลย (เอ่อ...แกจะกินก้างปลาเข้าไปด้วยไม่ได้นะ ยังไงก็เหลือก้างปลาเอาไว้เถอะ) และฉันก็ไม่ทำให้คุณน้องพนักงานผิดหวังไปกับการลุ้น (ที่จริงเค้าอาจจะไม่ได้ลุ้นแกหรอกนะ เค้าก็แค่ยืนดูความเรียบร้อยภายในร้านว่าลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ประมาณนั้นมากกว่ามั้ง อย่ามโนไปไกล) กินหมดเกลี้ยง อิ่มท้อง สบายใจ ภารกิจการกินปลาในวันนั้นลุล่วงไปได้ด้วยดี พร้อมสำหรับการเดินทางกลับบ้านด้วยความสุข

นอกจากเมนูทั้งหมดที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกหนึ่งเมนู brunch อย่าง Cranberry Brioche French Toast นี่ก็อร่อยใช้ได้อยู่นะ ขนมปังหนานุ่ม ข้างในเป็นแยมรสแครนเบอร์รี มีน้ำตาลไอซิ่งโรยหน้า ตกแต่งด้วยคอร์นเฟล็กพอประมาณ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา (อีกแล้ว) กินขนมปังคำนึง แกล้มด้วยไอศกรีมหนึ่งคำ มันก็เพลินดี

Passionfruit Semifreddo เป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานที่แนะนำให้ลองชิมกันดู คำว่า ‘semifreddo’ มาจากภาษาอิตาเลียนที่แปลได้ว่า half cold เพราะฉะนั้นลักษณะของเจ้าของหวานชนิดนี้ จะคล้ายมูสแช่แข็ง เหมือนกึ่งแข็งกึ่งเหลว (แต่ค่อนไปทางแข็งนะ) เป็นไอศกรีมรสชาติเสาวรส เสิร์ฟมาพร้อมครีมสด ราดด้วยซอสมะม่วง ตกแต่งหน้าตาให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยสตรอร์เบอร์รีผ่าซีก และยังมีผลเสาวรสสดๆ ซีกหนึ่งแนบมาให้ด้วย

ใครที่ชอบรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ น่าจะชอบเมนูนี้ จำได้ว่าตอนนั้นไปกินกับน้อง และน้องเป็นคนสั่งเมนูนี้ เมื่อฉันได้ลองชิม เลยติดใจกับรสเปรี้ยวหวานสดชื่น นั่งตักกินกันสองคนพี่น้อง แป๊บเดียวหมด

แหะๆ ไม่คิดว่าการแนะนำร้านอาหาร มันจะออกมายาวขนาดนี้นะเนี่ย หากใครกำลังมองหาร้านอาหารสไตล์ฝรั่งจำพวก brunch และมีเมนูของหวานที่อร่อย ฉันขอแนะนำ Roast ให้เป็นตัวเลือกของคุณอีกหนึ่งร้าน ได้นั่งทานอาหารอร่อย ทานเสร็จก็สามารถเดินดูร้านค้าอื่นๆ ใน The COMMONS ได้อีกด้วย ถือเป็นการย่อยอาหารไปในตัว

อ้อ! เกือบลืมบอกไปว่านอกจากที่ The COMMONS ทองหล่อ 17 แล้ว ทางร้าน Roast ยังมีอีกหนึ่งสาขาที่ EmQuartier ด้วยนะ อยู่ในส่วนของ The Helix Quartier ชั้น 1 ใครสะดวกตรงไหน ก็ไปตรงนั้นแหละ ฉันไปลองมาแล้วทั้งสองแห่ง อร่อยไม่ต่างกัน

Sources
Roast Website: Roast (เผื่อใครอยากเปิดดูรายการอาหารของทางร้าน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น)

ภาพประกอบ: Photo by Brigitte Tohm from Pexels

Comments