ตรุษจีน


วันนี้ฉันตื่นตั้งแต่เช้ามืด (ต้องขอบคุณตัวเองที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เมื่อคืน) เพื่อมาเป็นลูกมือในการเตรียมของไหว้เนื่องในวันตรุษจีน ผู้ปรุงอาหารที่ใช้ในการไหว้ แหม...ก็น่าจะรู้กันแล้วล่ะนะว่าต้องเป็นคุณน้าเชฟ ส่วนคนอื่นๆ ในบ้านก็แยกย้ายกันไปทำงานตามที่ตัวเองถนัด

งานของฉันเริ่มต้นตั้งแต่การช่วยน้าเบอร์หนึ่งจัดโต๊ะไหว้ จากนั้นก็ขึ้นชั้นบนไปยกรูปกงกับคุณยายมาตั้งโต๊ะ ปีนี้บ้านฉันตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่าจะไม่จุดธูปเทียนในตอนไหว้ เนื่องจากไม่อยากเพิ่มมลภาวะทางอากาศ ฉันโอเคมากกับความคิดนี้ เพราะนอกจากจะได้เป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยลดฝุ่นควันแล้ว อากาศภายในบ้านยังปลอดโปร่งขึ้นอีกด้วย ไม่ได้อบอวลไปด้วยควันธูปเทียนที่ทำให้การหายใจลำบากเหมือนกับปีก่อนๆ

หลังจากทำการตั้งโต๊ะที่จะใช้ในการไหว้บรรพบุรุษเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ช่วยกันยกถาดที่บรรจุบรรดาอาหาร ผลไม้ ของหวาน น้ำชา มาตั้งบนโต๊ะ อ้อ! ปีนี้งดการเผากระดาษเงินกระดาษทอง คฤหาสน์หลังใหญ่ ไอโฟน กระดาษรูปทองแท่ง ฯลฯ ด้วยเหตุผลเดียวกันกับการจุดธูปเทียนนั่นแหละ แต่ฉันก็อธิบายให้กงกับคุณยายได้รับทราบไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ยกรูปลงมาจากชั้นบนนะ คาดว่ากงกับคุณยายน่าจะเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันและคงไม่ว่าอะไรหรอก

สิ่งที่จำเป็นจะต้องมีในการไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน เห็นจะเป็นไก่ต้ม เป็ดต้ม ขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้มงคล เป็นต้น เหล่านี้คือ must have items ขาดไม่ได้ ไม่งั้นจะดูไม่สมบูรณ์ เมื่อไหว้เสร็จ ลูกหลานจึงมานั่งล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครัว

ฉันเป็นคนไม่ชอบไก่ต้ม เพราะมันดูซีด ยิ่งถ้ามีหนังไก่ติดอยู่ด้วย ยิ่งไม่ชอบ ส่วนเป็ด ฉันก็ไม่กินอยู่แล้ว เวลาสมาชิกครอบครัวนั่งกินอาหารไหว้กันอย่างเอร็ดอร่อย ฉันจึงได้แต่มองด้วยความสงสัยว่ามันอร่อยยังไงหว่า แล้วก็ตักผัดวุ้นเส้นกิน (อย่างน้อยแกก็ยังมีอาหารตรุษจีนที่กินได้บ้างแหละนะ)

สิ่งที่ฉันชอบที่สุดสำหรับเทศกาลตรุษจีน คือ ขนมเข่ง ประหลาดมั้ยล่ะ ฉันเป็นคนชอบกินอาหารประเภทที่ทำจากแป้งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และขนมเข่งก็เป็นขนมที่ตอบโจทย์คนอย่างฉันได้ดีเหลือเกิน ในขณะที่ทุกคนในบ้านชื่นชอบขนมเทียน เอร็ดอร่อยกับเป็ดไก่ ฉันกลับนั่งกัดก้อนขนมเข่ง เคี้ยวหงุบหงับอย่างมีความสุขอยู่คนเดียวโดยไร้คู่แข่งทางการกิน อืม...ดีแล้ว แกมาถูกทางแล้ว

เมื่อกินขนมเข่งแบบสดๆ จนหนำใจแล้ว จากนั้นขนมเข่งส่วนที่เหลือก็จะถูกนำออกไปตากแดดให้แข็ง แล้วเก็บเข้าตู้เย็น เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี พ่อจ๋าจะเอาขนมเข่งในตู้เย็นเหล่านั้นมาชุบไข่ทอดให้กิน ขนมเข่งทอดนี่ก็ของโปรดฉันเช่นเดียวกัน ขนมเข่งรสหวานจากแป้ง นำมาชุบไข่ที่มีรสเค็มจากการใส่เกลือเข้าไปเล็กน้อย เมื่อพ่อทอดเสร็จ ฉันก็หยิบส้อมมาจิ้มกินอร่อยไปเลย

ส่วนขนมเทียน ฉันเพิ่งจะมาเริ่มกินเป็นในช่วงหลัง ถือว่าเป็นมนุษย์ที่ค่อนข้างดีเลย์ในเรื่องอาหารการกินอยู่มากเลย ในขณะที่คนอื่นเค้าต่างรู้ซึ้งถึงความอร่อยกันไปนานแล้ว ฉันนี่เพิ่งจะประจักษ์แจ้งว่ามันอร่อยนะเนี่ย

ฉันชอบขนมเทียนตรงส่วนแป้งที่มีสีออกน้ำตาล และในตัวแป้งขนมเทียนจะมีเหมือนเศษผงเล็กๆ ผสมอยู่ ด้วยความอยากรู้ ฉันจึงค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้ได้รู้ว่า มันไม่ใช่เศษผง แต่คือหญ้าชิวคัก หรือที่เรียกว่าหญ้านางนวล (หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วย) ตามความคิดของฉัน นี่คือส่วนผสมที่ทำให้การกินขนมเทียนดูน่าอร่อย

ด้วยความที่ชอบกินแป้งในตัวขนมเทียนมาก ฉันนึกอยากให้มีร้านรับทำขนมเทียนแบบ made to order ตามแบบที่ฉันต้องการเหลือเกิน คือเอาแค่ตัวแป้งขนมเทียน แต่ไม่เอาไส้ มันมีร้านไหนรับทำหรือไม่ ถ้ามี ฉันนี่แหละจะรีบไปสั่งทำเลย แต่ต้องใส่หญ้าชิวคักผสมในตัวแป้งด้วยนะ

เมนูอย่างแปะก๊วยต้มน้ำตาลใส่พุทราจีน ฉันก็ชอบกินนะ แต่จะต้องแช่ไว้ในตู้เย็นจนเย็นเจี๊ยบถึงจะยิ่งอร่อย ถ้าไม่เย็น ฉันว่ามันจะหวานเลี่ยนไปเล็กน้อย เขาว่ากันว่ากินแปะก๊วยช่วยให้ความจำดี ก็กินๆ เข้าไปตามที่ผู้ใหญ่บอกมา

ตรุษจีนปีนี้ก็คล้ายกับปีก่อนๆ ที่ฉันได้ออกกำลังกล้ามเนื้อแขนแต่เช้า ด้วยการยกถาดของไหว้ ได้นั่งกินอาหารร่วมกับครอบครัว ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นการมองคนอื่นกินซะมากกว่า ฟังสมาชิกในบ้านพูดคุยกันระหว่างกินข้าว มือก็หยิบขนมเข่งเข้าปาก ตามด้วยขนมเทียน มื้อนี้คาร์โบไฮเดรตหนักมาก

และนี่ก็คือตรุษจีนในแบบของฉัน ไม่เน้นโปรตีน หนักแป้ง (ตามเคย)
สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ทุกคนเฮง เฮง เฮง รวย รวย รวย

Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels

Comments