งานอดิเรกอย่างหนึ่งของฉันเมื่อยังเป็นเด็กคือการสะสมแสตมป์ (ช้าก่อน แสตมป์ที่ว่า หมายถึง แสตมป์จากหน้าซองจดหมายนะ เดี๋ยวเด็กสมัยนี้มาอ่านแล้วอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแสตมป์จากร้านสะดวกซื้อ) คิดว่าเด็กๆ หลายคนในยุคนั้นก็น่าจะเคยตามเก็บแสตมป์กันทั้งนั้น ก็แหม...ตอนนั้นอีเมลยังไม่ได้รับการพัฒนานี่นะ วิธีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกในสมัยนั้น เห็นจะเป็นการโทรศัพท์ถึงกันหรือไม่ก็ส่งจดหมายนั่นแหละ
ที่บอกว่าใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกัน มันคือโทรศัพท์แบบสมัยก่อนเลยนะ ยังพอจำกันได้มั้ยเนี่ย เครื่องโทรศัพท์ที่มีแป้นตัวเลขให้หมุน พร้อมกับยกหูโทรศัพท์ที่มีสายขดเป็นเกลียวขึ้นมาแนบหูเพื่อฟังเสียงปลายสายพูดไงเล่า จนเวลาผ่านไป จากการหมุนแป้นตัวเลข ได้กลายมาเป็นการกดปุ่มตัวเลขแทน และต่อมาถึงจะมีโทรศัพท์มือถือเครื่องเท่ากระติกน้ำ กว่าจะมาเป็นมือถืออย่างทุกวันนี้ พวกเรามากันไกลมากเนอะ
อีกหนึ่งวิธีในการสื่อสารที่สะดวกและประหยัด นั่นก็คือการส่งจดหมาย และนี่จึงเป็นที่มาของงานอดิเรกในวัยเด็กของฉัน โดยฉันได้รับมรดกตกทอดซะด้วยนะ เพราะทั้งกง แม่และน้า ต่างก็เคยเก็บสะสมแสตมป์มาก่อน เลยทำให้ได้ทั้งสมุดสะสมพร้อมกับแสตมป์ยุคก่อนฉันเกิดเป็นของแถมมาด้วย
จำได้ว่าสมุดสะสมแสตมป์ของกง เป็นสมุดปกแข็ง เหมือนปกหนังสือนิยายยุคเก่า เมื่อเปิดออกดูในแต่ละหน้า จะได้เห็นแสตมป์ถูกเหน็บเอาไว้ในช่องพลาสติกใสๆ ที่ติดกับตัวกระดาษ เรียงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
หลักในการจัดวางแสตมป์ของกง เมื่อสังเกตดู จะเห็นว่ามีทั้งที่เป็นรูปภาพเดียวแต่คละสี อันนี้ที่เห็นบ่อยคือรูปบุคคลสำคัญของต่างประเทศ (ขอสารภาพว่าฉันก็ไม่ได้รู้จักหรอกนะว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกัน) หรือว่าจะเป็นคอลเลกชันครบชุดก็มีนะ ยกตัวอย่างเช่น ชุดดอกไม้ ต้นไม้ ชุดสถานที่ท่องเที่ยว ข้าวของเครื่องใช้ ฯลฯ
เมื่อถึงเวลาที่ฉันเริ่มสะสมแสตมป์บ้าง แม่กับน้าจะเป็นผู้สนับสนุนหลัก คอยเก็บแสตมป์จากซองจดหมายที่ไม่ใช้แล้วจากที่ทำงานของแต่ละคน โดยจะฉีกหรือตัดมุมซองจดหมายด้านขวา เมื่อเก็บรวบรวมได้เยอะแล้ว จึงจะเอากลับบ้านมาให้ฉัน
จากนั้นฉันก็จะนำเศษกระดาษที่มีแสตมป์ติดเอาไว้นั้น มาตัดแต่งให้มีขนาดเล็กกว่าเดิม เพื่อความสะดวกในการเอาไปแช่น้ำ แล้วปล่อยทิ้งไว้ในน้ำสักพักเพื่อให้ความเหนียวของกาว (หรือบางกรณี อาจจะเป็นน้ำบ่อน้อยของผู้ส่งก็เป็นได้) หลุดหายไป
ขั้นต่อไปเป็นช่วงที่ฉันชอบมาก เพราะฉันจะได้นั่งลอกแสตมป์ออกจากกระดาษ ซึ่งต้องระมัดระวังด้วยนะ เพราะบางทีกาวมันก็ยังไม่หมดความเหนียว ถ้าดึงแรงไป แสตมป์ที่เปื่อยอยู่แล้วจากการแช่น้ำก็อาจจะขาดได้ มันก็จะมีผสมปนเปกันไป แสตมป์บางอันก็ลอกออกจากกระดาษได้ยาก บางอันก็ลอกไม่ออก (ประเภทนี้ต้องเอากลับไปแช่น้ำต่อ) แต่บางอันก็หลุดออกอย่างง่ายดาย (พวกหลังนี่แหละสนุกสุด)
เมื่อลอกแสตมป์ออกมาเรียบร้อยแล้ว ฉันก็จะนำแสตมป์เปียกน้ำเหล่านั้น เอามาวางเรียงบนแผ่นกระดาษ แล้วจึงเอาแผ่นกระดาษนั้นออกมาตากแดดข้างนอก รอจนแดดส่องแสตมป์ให้แห้งสนิท จากนั้นก็เก็บแสตมป์พวกนั้นเข้าสมุดสะสมต่อไป
ถ้าเป็นแสตมป์จากต่างประเทศ ฉันจะยิ่งตื่นเต้น เพราะบางครั้งมันก็จะเป็นรูปทรงที่แปลกออกไป มีทั้งรูปสามเหลี่ยมบ้าง วงกลมบ้าง ไม่ใช่แสตมป์สี่เหลี่ยมทั่วไปอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ
จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยประถม ที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อนั่งแหงนหน้าดูดาวเสร็จ จากนั้นเหล่านักเรียนก็ออกมาเดินเที่ยวด้านนอก เมื่อเห็นว่ามีร้านขายของกระจุกกระจิกอยู่ด้วย ทาสการตลาดวัยเด็กอย่างฉัน ก็ไปสุมหัวที่ร้านนี้เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ เพื่อเลือกชุดแสตมป์ที่ตัวเองชอบ วันนั้นได้แสตมป์รูปการ์ตูนกลับมาบ้าน 2-3 ชุด ซึ่งมันน่าจะเป็นแสตมป์ของเล่น ไม่น่าจะใช้ส่งได้จริงแต่อย่างใด
ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าสมุดสะสมแสตมป์เล่มนั้นหายไปไหนแล้ว ไปหาอีกทีก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งในห้องเก็บของ หรือว่ามีใครเผลอทิ้งไปแล้วก็ไม่อาจรู้ได้ (ฮือๆ ลาก่อน เจ้าแสตมป์เพื่อนยาก)
แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันยังคงจดจำความตื่นเต้นในการเฝ้ารอที่จะได้แสตมป์จากผู้ใหญ่ ความสนุกสนานไปกับขั้นตอนต่างๆ ในการเก็บสะสม เพื่อให้ได้มาซึ่งแสตมป์สวยงามเพิ่มขึ้นทีละดวงสองดวง (หรืออาจจะทีละเยอะๆ) ในสมุดสะสมที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ปัจจุบันนี้ เมื่ออีเมลได้ถูกแนะนำสู่มนุษย์โลก การส่งจดหมายถึงกันเลยน้อยลงไปด้วย การจะหาแสตมป์สักดวง (แบบที่ใช้ส่งถึงกันจริงๆ ผ่านการประทับตราจากไปรษณีย์มาแล้ว ไม่ใช่การไปซื้อแสตมป์ใหม่ล่าสุดจากไปรษณีย์เพื่อเก็บสะสมนะ) จึงค่อนข้างหาได้ยาก
แสตมป์ดวงล่าสุดที่ฉันได้มา น่าจะเป็นช่วงปลายปีที่แล้ว เป็นแสตมป์จากซองจดหมายที่ส่งมาให้น้า ฉันเลยขอมาทั้งซองจดหมายเลย เพราะเห็นว่ามันสวย แปลกตาดี เป็นแสตมป์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปเรือลำใหญ่ แบบเห็นแล้ว อดใจไม่ได้ ต่อมอยากเก็บกำเริบ
จนถึงตอนนี้ ซองจดหมายซองนั้นพร้อมแสตมป์ก็ยังคงวางนิ่งสนิทอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือของฉัน โดยที่ฉันยังไม่ได้ทำการตัดมุมซองอะไรทั้งนั้น เนื่องจากสมุดสะสมอันตรธานหายไปนานแล้ว จึงได้แต่เพียงเก็บซองและแสตมป์เอาไว้ดู เพื่อให้ฉันได้ระลึกถึงงานอดิเรกที่สนุกสนานในวัยเยาว์
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment