ช่วงนี้เหมือนว่าดินฟ้าอากาศจะไม่ค่อยเสถียรเอาซะเลย อากาศเย็นแบบบางเบาในช่วงเช้า สายหน่อยแดดเริ่มออก ตกบ่ายฟ้าครึ้ม เอาเถอะ นี่คงเป็นอิทธิพลจากพายุโซนร้อนปาบึก ทำให้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
เมื่อวานนี้ ฉันตื่นมาซักผ้าแต่เช้า เนื่องจากต้องทยอยซักพวกผ้าห่ม และบรรดาเครื่องนอนต่างๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดีต้อนรับปีใหม่ (นี่มันก็เลยปีใหม่มาหลายวันแล้วนะแก)
จัดการเก็บผ้าห่มมาซักทั้งหมด 3 ผืน เมื่อเสียงทำนองเพลง Piano Sonata No. 11 in A major, K. 331 ของ Mozart ดังออกมาจากเครื่องซักผ้า เมื่อนั้นกระบวนการซักจึงถือว่าเสร็จสมบูรณ์ รอให้ฉันเปิดฝาเครื่อง เพื่อนำผ้าออกไปตากแดดเป็นขั้นต่อไป
ฉันชอบความรู้สึกยามที่ดึงผ้าที่ซักเสร็จใหม่ๆ ออกจากเครื่องซักผ้านะ มันจะมีกลิ่นสะอาดลอยออกมาจากเสื้อผ้า และกลิ่นสะอาดแบบนี้ จะชัดเจนมากยิ่งขึ้นในตอนที่ฉันเดินออกไปเก็บบรรดาเสื้อผ้าที่ผ่านการตากจากแสงแดดอุ่นๆ จนพวกมันแห้งสนิทดีแล้ว
พูดแบบนี้ ทำให้เกิดความรู้สึกดีกับการเดินเก็บผ้าเนอะ แต่ในความเป็นจริง บางวันแดดงี้เปรี้ยงมาก ทำเอาฉันแทบไม่อยากออกไปเก็บผ้าเลยก็มี หรือบางวันฝนตก ไม่มีแดด ผ้าเลยไม่ค่อยจะแห้งเท่าไหร่ ต้องย้ายเสื้อผ้าไปหามุมที่อากาศถ่ายเท ป้องกันกลิ่นอับชื้นอันไม่พึงประสงค์
เมื่อผ้าทั้งหมดถูกแขวนอยู่บนราวตากผ้า พร้อมมีไม้หนีบติดไว้เป็นที่เรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จภารกิจตอนเช้า ฉันสามารถไปทำอะไรอย่างอื่นได้ในระหว่างวัน เพื่อรอเวลาในช่วงบ่ายแก่ๆ จึงจะเดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้เหล่านั้นเข้ามาพับเก็บให้เรียบร้อย
ตามหลักแล้วมันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่เหตุใดกัน เมื่อเดินออกไปเก็บผ้า ฉันถึงเห็นว่าผ้าที่ผ่านการซักมาอย่างสะอาดเอี่ยมอ่อง กลับมีรอยเปื้อนคล้ายฝุ่นสีดำๆ ติดอยู่เป็นแนวยาวไปตามขอบผ้า ตอนนั้นใจแทบแตกสลาย ต่อมาก็เริ่มโกรธเคือง เฝ้ามองหาตัวต้นเหตุที่ทำให้ผ้าของฉันมีมลทิน
เมื่อหันมองรอบตัว ก็จับหนึ่งในผู้ร้ายของเรื่องนี้ได้แบบคาหนังคาเขา มันคือรถยนต์ที่จอดนิ่งสนิทอยู่นั่นเอง ตรงกระโปรงหน้าของรถ มีฝุ่นจับอยู่ เมื่อลองเอานิ้วลูบดู นิ้วของฉันก็ติดคราบสีดำซึ่งเป็นเฉดเดียวกันกับสีรอยเปื้อนตรงขอบผ้าห่ม (ทำไมเขียนไปเขียนมา เหมือนกำลังอยู่ในฉากสืบสวนสอบสวนยังไงอยู่นะ)
ไม่ต้องรอโคนันมาคลี่คลาย ฉันก็รู้ว่านั่นแหละผู้ร้าย ส่วนนายใหญ่ ตัวต้นเหตุของเรื่อง จับไม่ได้หรอก หายตัวเข้ากลีบเมฆไปนานแล้ว แต่นายใหญ่ผู้นี้น่ะ ถึงฉันอยากจับแค่ไหน ก็ไม่มีทางจับได้แน่นอน เพราะมันก็คือสายลมแรงๆ ที่พัดผ่านมาเพียงครู่หนึ่ง แต่เป็นครู่หนึ่งที่ทำให้ราวตากผ้าเคลื่อนไปใกล้รถเปื้อนฝุ่นที่จอดไว้ ทำให้ผ้าห่มสะอาดบริสุทธิ์ของฉันต้องเป็นรอยด่างดำ มองไปที่รอยเปื้อนเหล่านั้นแล้ว ฮึ่ย...ชวนให้เจ็บใจยิ่งนัก
อารมณ์นั้นได้แต่คิดว่าตัวเองเป็นโศรยา นางเอกจากนิยายเรื่อง จำเลยรัก ได้แต่รำพันอยู่ในใจว่า “เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้ลมเคืองขุ่น” หลังจากบ่นพึมพำ ระบายความเศร้ากับราวตากผ้าไม่ต่างจากคนเสียสติไปสักพักหนึ่ง ฉันก็ได้แต่เก็บผ้าห่มผืนนั้นกลับเข้าบ้าน เพื่อรอที่จะซักใหม่อีกรอบในวันนี้
เข้ามาในบ้านแล้วก็ครวญเพลงต่อไปอย่างกระฟัดกระเฟียดว่า “เชิญลมลงทัณฑ์พัดมา จนราวตากผ้าต้องเลื่อนออกไป นี่แหละหนา ฉันต้องมาซักใหม่ อีกรอบไง เพราะฉันไม่ชอบเห็นรอยเปื้อนผ้า”
นี่คือที่มาของนิยายเรื่องใหม่ ไม่มีนางเอกอย่างโศรยา ไม่มีหฤษฎิ์ รังสิมันต์ เป็นพระเอก ไม่มีนายใบ้อะไรทั้งนั้น มีแต่ฉันกับรถที่จอดนิ่งอยู่ในโรงจอดรถ ส่วนลมที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ไม่รู้จะไปตามตัวได้ที่ไหน
สำหรับชื่อของนิยายเรื่องนี้ เห็นจะไม่มีชื่อไหนเหมาะสมไปกว่า “จำเลยซัก”
Source
ภาพประกอบ: Photo by Fancycrave.com from Pexels

Comments
Post a Comment