ฉันเชื่อว่าแทบจะทุกคน น่าจะมีประสบการณ์ในการเข้าครัวทำอาหารทานเองกันมาบ้าง ส่วนเรื่องรสชาติของอาหารที่ทำออกมานั้น จะกินได้ หรือกินไม่ได้ คงจะขึ้นอยู่กับความสามารถในด้านการทำอาหารของแต่ละคน (หรือมีผู้ใดที่อาศัยโชคในการทำอาหารบ้างไหม)
ทุกคนที่เคยทำอาหาร น่าจะมีเมนูประจำตัวกันทั้งนั้น เป็นอาหารที่คนผู้นั้นพอจะมั่นใจในฝีมือของตนเอง และสามารถทำออกมาให้สมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง เหล่าเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักได้มีโอกาส (หรือโชคร้ายกันแน่หว่า) ลองลิ้มชิมรส
เมื่อสมัยยังเด็ก ที่บ้านของฉันมักจะไปฉลองปีใหม่กันที่บ้านญาติที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยแต่ละครอบครัวก็จะทำการจัดเตรียมอาหารกันมาคนละอย่างสองอย่าง เพื่อเอามาล้อมวงทานด้วยกัน กินไป คุยไป ด้วยความสนุกสนาน
เมนูที่พ่อกับแม่ของฉันภูมิใจนำเสนอ คือ ไก่ย่าง โดยพ่อกับแม่จะออกไปซื้อปีกไก่ที่ตลาด และนำมาหมักกับสามสหายอย่าง กระเทียม พริกไทย และรากผักชี ที่ผ่านการโขลกรวมกันจากครกอย่างละเอียดแล้ว จากนั้นก็เหยาะน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย (เล็กน้อย) และหมักทิ้งไว้ให้เครื่องปรุงแทรกซึมเข้าสู่เนื้อไก่ เพื่อรอเวลานำไปย่างบนเตาถ่าน
ฉันยังคงจดจำความสนุกสนานของการปิ้ง “ไก่ปีใหม่” ได้ดี เริ่มต้นด้วยการคีบไก่จากกะละมัง แล้วเอาไปปิ้งบนตะแกรงที่วางไว้เหนือเตาถ่าน เวลาที่น้ำเครื่องปรุง ผสมไขมันจากไก่ หยดลงไปในเตาไฟ เปลวไฟสีแดงๆ ก็ลุกกระพือขึ้นมา เล่นเอาพวกเด็กๆ อย่างฉันที่ประจำการปิ้งไก่กันอยู่ เกือบวงแตก แต่ละคนพากันกระโดดถอยห่างจากเตาไฟ และเกือบจะละทิ้งบรรดาปีกไก่ที่อยู่บนเตา เพื่อหันไปหาอะไรสนุกๆ (แบบที่ระทึกใจน้อยลง) เล่นแทน ต้องอาศัยพวกผู้ใหญ่คอยเติมถ่าน เติมขี้เถ้า เพื่อให้ความแรงของไฟลดลง เมื่อนั้นแหละ บรรดานักปิ้งไก่มือสมัครเล่น จึงเริ่มกลับมาหยิบไม้คีบที่โยนทิ้งไปก่อนหน้า และตั้งหน้าตั้งตาปิ้งไก่จนหน้ามัน เหงื่อไหลกันต่อไป
จะเป็นเพราะความสนุกจากการปิ้งไก่ การพบเจอและได้พูดคุย ได้เล่นกันอย่างสนุกสนานในหมู่ญาติพี่น้อง บวกกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรืออาจเป็นทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ฉันรู้สึกว่า “ไก่ปีใหม่” ของพ่อกับแม่ อร่อยมากๆ (ถึงแม้ไก่บางไม้จะเกรียมไปนิด ไหม้ไปหน่อย ด้วยฝีมือการปิ้งจากมือสมัครเล่นก็ตามที) นี่คือเมนูที่ทั้งพ่อและแม่ ต่างภูมิใจนำเสนอ เป็นเมนูที่มักจะได้ขึ้นโต๊ะในทุกครั้งที่มีการรวมญาติ
ส่วนเมนูประจำตัวที่พ่อฉันถนัดจริงๆ นั้น จะว่าไปก็มีอยู่หลายอย่างนะ ทั้งหมูซีอิ๊ว ที่พ่อจะเอาหมูสามชั้น โดยเลือกชิ้นที่มีส่วนเนื้อเยอะหน่อย มาหมักกับซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย (พ่อฉันไม่ค่อยชอบใช้น้ำปลาในการปรุงรสอาหาร) เมื่อหมูหมักได้ที่แล้ว จากนั้นก็ใส่กระเทียมที่บุบเพียงเล็กน้อย พริกไทยดำ รากผักชี และเครื่องปรุงสำคัญอย่างน้ำตาลปี๊บ ลงไปในหม้อต้ม รอเวลาให้หมูสุก เมื่อนั้นฉันและน้องก็จะได้กิน หมูซีอิ๊วอุ่นๆ หอมๆ ที่มีน้ำซอสขลุกขลิก รวมไปถึงฟองไขมันที่พากันลอยตัว เสนอหน้าให้เห็นเด่นชัดในน้ำซอสนั้นด้วย (เวลากิน ต้องทำใจมองผ่านฟองไขมันไป แล้วจะกินได้อย่างฟินมากยิ่งขึ้น)
อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของพ่อ คือ ซี่โครงหมูนึ่งขิง วันไหนที่พ่อทำเมนูนี้ แน่นอนว่าวันนั้น ฉันจะต้องกินข้าวสองจาน มันอร่อยมาก วิธีทำก็ง่ายมาก เอาซี่โครงหมู มาหมักซีอิ๊วขาวกับน้ำมันหอย จากนั้นก็เติมน้ำ ใส่ขิงที่หั่นฝอยลงไปในหม้อต้ม พร้อมกับกระเทียม และพริกไทยดำ เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นก็รอเวลาให้หมูเปื่อย เอามากินกับข้าวสวย โอย...พูดแล้วน้ำลายเริ่มยืด
เนื่องจากปกติพ่อของฉัน ไม่ค่อยได้เข้าครัวเท่าไหร่ จะทำอาหารก็ต่อเมื่อพ่ออยากทาน หรือว่าลูกเรียกร้องให้พ่อทำให้ทาน ดังนั้น ที่ประจำของพ่อที่ฉันเห็นจนเป็นภาพชินตา จึงไม่ใช่ในครัว แต่เป็นในสวนของพ่อต่างหาก ที่ฉันจะเห็นพ่อเฝ้าประคบประหงม บรรดาต้นไม้ ดอกไม้ ที่พ่อลงมือปลูกเอง ราวกับว่าพวกมันเป็นลูกของพ่ออีกคน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่พ่อกำลังเก็บกวาดและเผาเศษใบไม้อยู่หลังบ้าน ฉันและน้องที่เล่นซนอยู่ข้างนอกพอดี เลยวิ่งไปหาพ่อ เมื่อเห็นพ่อเอาใบไม้มาสุมและก่อไฟ พวกเราเลยนึกสนุก วิ่งกลับเข้าบ้าน ไปขอมันฝรั่งจากแม่ ได้มาแล้ว ก็ส่งให้พ่อเอาไปกลบไว้ใต้กองใบไม้ และนั่งรอเวลาให้มันฝรั่งสุกได้ที่ ตอนที่พ่อคีบมันฝรั่งที่ผิวด้านนอกเป็นสีดำออกมา และยื่นส่งให้เราทั้งคู่ จำได้ว่าฉันและน้องแสนจะตื่นเต้น ดี๊ด๊า ได้อารมณ์ของการตั้งแคมป์ หาอาหารกินในป่ามาก แม้ว่ามันฝรั่งจะสุกบ้าง ไม่สุกบ้าง กินไปแล้วเหมือนเวลาเคี้ยวข้าวไม่สุก แต่ความฟินก็เกินหน้าความอร่อยไปแล้ว
มาถึงเมนูประจำตัวแม่ของฉันกันบ้าง ที่ฉันจำได้แน่ๆ คือแม่ทำไข่นึ่งอร่อย (มันคือไข่ตุ๋นนั่นแหละ) วันไหนที่แม่นึ่งไข่ และผิวหน้าของไข่ออกมาเรียบ เนียนสวย ราวกับไปกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่น แม่จะดีใจ ยินดีปรีดา แต่ถ้าวันไหน ไข่ออกมาหน้าตาเหี่ยวๆ ฟีบๆ แม่ก็จะเงียบๆ ไป ราวกับว่าการไม่พูด จะช่วยให้ฉันไม่สังเกตเห็นบรรดารูบนผิวไข่ ที่เป็นฟองอากาศในไข่แฟบๆ ที่แม่เป็นคนทำอย่างนั้นแหละ
เมนูที่แม่ทำและฉันจำได้ดี ไม่ใช่เมนูที่ทำออกมาแล้วอร่อยเลิศ แต่กลับเป็นเมนูที่พอทำออกมาแล้ว หน้าตาอาหารจะดูประหลาดกว่าเวลาชาวบ้านทั่วไปทำ ซึ่งเมนูที่ว่านี้ คือ ผัดผักบุ้งไฟแดง ด้วยความที่แม่ของฉันเป็นคนชอบดื่มน้ำ เวลาทานข้าวก็ชอบซดน้ำซุป ชอบอาหารที่มีน้ำเป็นหลัก ดังนั้น ผัดผักบุ้งของแม่ มันก็จะให้หน้าตา “น้ำท่วมทุ่ม ผักบุ้งโหรงเหรง” อย่างแท้จริง
พูดง่ายๆ คือ มันไม่ใช่ ผัดผักบุ้งไฟแดง แต่มันคือ แกงจืดผักบุ้ง ยิ่งถ้าวันไหนที่แม่ทำการผัดเสร็จเรียบร้อย แล้วไม่ได้ตั้งโต๊ะกินข้าวกันทันที น้ำจากผักจะยิ่งออกมา เพิ่มความโหรงเหรงให้มโหฬารมากขึ้นไปอีก มากขนาดที่ฉันสามารถตักน้ำมาซด ประหนึ่งว่ากำลังกินแกงจืดได้เลย อร่อยสมใจแม่ แต่ลูกกินไป หน้าเบี้ยวไป
ผู้ที่ได้รับตำแหน่งแม่ครัวประจำบ้าน คือ น้าของฉัน อาหารที่น้าทำ ล้วนแล้วแต่มีรสชาติอร่อยทั้งนั้น เมนูที่ขึ้นชื่อของน้า ก็มีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สุกี้หมู ทอดมันปลากราย ก๋วยจั๊บญวน บะหมี่ปู+เกี๊ยวกุ้ง หมี่ผักกระเฉด ก๋วยเตี๋ยวไก่ แกงเขียวหวาน หรือจะเป็นของหวาน น้าฉันก็ทำอร่อยเช่นเดียวกับอาหารคาว อย่างเช่น กล้วยบวชชี ฟักทองแกงบวด เป็นต้น
นอกจากนี้ ของหวานที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน อย่างเช่น ขนมอินทนิล สีเขียวสวยที่ฉันเคยได้เห็นแต่ภาพโฆษณาตามโรงแรม หรือข้าวฟ่างเปียกที่พวกเราเคยไปลองชิมกันมาที่ร้านสมทรง แล้วต่างติดใจในรสชาติหวานๆ ของข้าวฟ่าง ที่เข้ากันได้ดีกับรสเค็มของน้ำกะทิ น้าของฉันก็สามารถทำให้พวกเราทานได้ และมีรสชาติอร่อยพอๆ กับการไปกินที่ร้านอาหารเลยทีเดียวเชียว
จะมีอาหารอยู่อย่างเดียวเท่านั้นที่น้าทำออกมาแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันไม่เข้าเกณฑ์ปกติ นั่นก็คือ ข้าวผัดทะเล ที่บอกว่าไม่เข้าเกณฑ์ ไม่ใช่ว่ารสชาติที่ทำออกมาจะไม่อร่อย แต่เป็นเพราะข้าวผัดในเวอร์ชันของน้า ปริมาณของกุ้ง ปลาหมึก และปู มันล้ำหน้าปริมาณข้าวไปมาก จนฉันต้องขนานนามว่า “ข้าวผัดคนรวย”
จุดเด่นอีกอย่างของน้า คือ เป็นคนที่ “อิน” กับการทำกับข้าวเป็นอย่างมาก ไม่มีการยั้งมือ เวลาน้าทำกับข้าว จะได้ยินเสียงของตะหลิวกระทบกับกระทะอยู่เนืองๆ โช้งเช้ง โป๊ก รวมทั้งเสียงของหล่น อย่างเช่น ทัพพี หรือช้อน (ยังดีที่ไม่ทำจานตกแตก) ด้วยความที่ได้ยินเสียงแบบนี้เป็นประจำ น้าก็เลยได้รับสมญานามจากฉันว่า “เชฟกระทะบุบ” (ถึงสมญานามนี้ จะฟังดูไม่โปร แต่อาหารที่น้าทำ รสชาติอร่อยมากนะ ขอบอก)
สภาพลานครัว หลังจากการทำกับข้าวของน้าเสร็จสิ้น จึงมีสภาพราวกับว่า พวกมันได้ผ่านสงครามโลกมาอย่างไรอย่างนั้น มีทั้งบรรดาเศษถุงพลาสติกที่เคยใช้ใส่วัตถุดิบ หนังยางรัดของที่หล่นเกลื่อนกลาด เศษก้านพริกที่กระจัดกระจายอยู่ใกล้อ่างล้างจาน เกล็ดปลา หนวดกุ้ง ผักใบเหี่ยวเกินกว่าจะเอามาทำอาหาร ก้างปลา ฯลฯ โอย...ฝ่ายเก็บล้างอย่างฉัน เห็นแล้วได้แต่กุมขมับ 555
อ่านมาถึงตรงนี้ มีผู้อ่านคนไหน เกิดสงสัยขึ้นมาบ้างหรือไม่ ว่าเมนูประจำตัวฉันคืออะไร น่าจะเดาได้ไม่ยากนักหรอก แหม...จะเป็นอะไรไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เมนูไข่ ไข่ และไข่นั่นเอง ทั้งไข่ดาว ไข่เจียว จะเป็น omelette แบบฝรั่ง หรือ scrambled eggs รวมทั้งข้าวผัดไข่ และแกงจืดไข่น้ำ ฉันก็ทำมาแล้วทั้งนั้น ส่วนรสชาติน่ะเหรอ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปนัก ฉันว่า...มันก็พอกินได้อยู่นะ
Source
ภาพประกอบ: Photo by Netaly Reshef from Pexels
Source
ภาพประกอบ: Photo by Netaly Reshef from Pexels
Comments
Post a Comment