Mr. Orbit


หากเอ่ยชื่อ William Orbit คนทั่วไปอาจไม่คุ้นหู แต่เชื่อว่าชื่อนี้ น่าจะเป็นที่รู้จักในหมู่คนดนตรี เพราะเขาผู้นี้เป็นทั้งนักดนตรี นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ ผ่านการร่วมงานกับศิลปินมานับไม่ถ้วน

เพลงดังหลายเพลงที่ฉันเคยได้ฟัง ก็มาจากผลงานของเขาผู้นี้แหละที่ร่วมแต่งเนื้อร้อง เช่น Ray of Light และ Beautiful Stranger (เพลงหลังนี้ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Austin Powers: The Spy Who Shagged Me) ของเจ๊แม่ Madonna หรือบทเพลงอย่าง She Cries Your Name จาก Beth Orton

รู้สึกว่าเพลงที่เขาร่วมแต่ง จะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เยอะเหมือนกัน เพราะยังมี Feel Good Time ของ Pink ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Charlie’s Angels: Full Throttle อีกด้วย

นอกจากนี้ เพลงที่ฉันชอบมากอย่าง Pure Shores จาก All Saints ก็เป็นผลงานการร่วมแต่งเนื้อร้องของ Mr. Orbit ผู้นี้เช่นเดียวกัน โดยเพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่มี Leonardo DiCaprio แสดงนำ

มีใครยังจำภาพยนตร์เรื่องนี้กันได้หรือไม่ เพราะออกฉายนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัย Leo ยังเป็นหนุ่มอยู่เลย และมาถ่ายทำกันที่อ่าวมาหยา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตอนนั้นคนไทยตื่นเต้นกับการมาของ Leo กันมาก

ไม่แน่ใจว่ามีใครรู้สึกเหมือนฉันบ้าง เมื่อเวลาฟังเพลงที่ Mr. Orbit ผู้นี้ มีส่วนร่วมในการแต่ง มันจะให้อารมณ์หลอนเล็กๆ ไม่ใช่หลอนแบบน่ากลัวนะ แต่ออกแนวหลอนปนมึน ถ้าเปรียบเสียงดนตรีของ Mr. Orbit กับรูปภาพ คงเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมมึนงง เหมือนตอนฉันจ้องภาพสามมิตินานเกินไป หลังจากนั้น จะมีอาการเบลอๆ และตาลายอยู่สักพัก

พูดแบบนี้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่าฉันไม่ชอบแนวดนตรีประเภทนี้ (ซึ่งก็ไม่รู้จะให้คำจำกัดความว่าเป็นแนวไหนดี) เพราะอย่างที่บอก มันก็เหมือนกับการจ้องภาพสามมิตินั่นแหละ ตอนที่ยังมองภาพไม่ออก ฉันก็จะมึน งง สับสน แบบว่าไม่รู้จะมองหาจุดโฟกัสที่ตรงไหนของภาพ แต่เมื่อมองออกว่าเป็นภาพอะไร มันก็ให้ความรู้สึกพิเศษขึ้นมาทันที คล้ายกับฉันสามารถไขความลับของจักรวาลได้ และสิ่งนี้แหละที่ทำให้แนวดนตรีของ William Orbit เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาสำหรับผู้ฟังเช่นฉัน

Source
ภาพประกอบ: Photo by Dom J from Pexels

Comments