ขวัญใจแม่


ขวัญใจแม่ แน่นอนว่าคือพ่อจ๋า เป็นอันจบบทความชิ้นนี้ เดี๋ยว! ใจเย็นก่อนนะ พ่อจ๋าน่ะ ยังไงก็เป็นขวัญใจตัวจริงของแม่อยู่แล้ว แต่ขวัญใจที่ฉันกำลังพูดถึงอยู่นี้ หมายถึงดาราขวัญใจของแม่ต่างหากเล่า

หากใครเคยได้ติดตามอ่านบทความของฉันมาบ้าง น่าจะพอทราบถึงความเป็นติ่งรุ่นใหญ่อย่างแม่ฉัน โดยพระเอกที่แม่พร่ำเพ้อ เฝ้าฝันหาอยู่พักหนึ่ง (พักใหญ่เลยด้วย) คือ นักแสดงหนุ่มหน้าหวานอย่าง เจมส์จิ นั่นเอง

ช่วงที่ละครชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพออกฉายทางโทรทัศน์ เป็นช่วงเวลาที่ยากยิ่งนักที่จะพรากแม่ออกจากหน้าจอ และแม่จะลืมกิจกรรมที่ตัวเองกำลังทำอยู่อย่างสิ้นเชิง ถ้าแม่กำลังกินข้าวอยู่ แม่จะย้ายตัวเองพร้อมจานข้าว ไปปักหลักที่เก้าอี้ตัวโปรด ตาดูคุณชายหมอสุดหล่อ ขณะที่มือก็ตักข้าวเข้าปาก หรือหากแม่กำลังล้างจานอยู่ เหล่าจานชามจะถูกทิ้งให้จมอยู่ก้นอ่างอย่างไม่ใยดี จะกลับมาดูดำดูดีบรรดาจานชามที่น่าสงสารพวกนั้นอีกทีก็ตอนพักโฆษณา (หรือถ้าตอนนั้นแม่กำลังติดพันละครมากๆ ก็จะกลับมาหาจานชามอีกครั้งตอนละครจบ)

อนึ่ง ก่อนหน้าที่แม่จะค้นพบไอดอลหน้าใสอย่างเจมส์จินั้น แม่ก็เคยมีอาการคลั่งไคล้ดาราในทำนองนี้มาแล้ว พระเอกคนโปรดประจำใจของแม่ คือ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ใช่แล้วค่ะ ท่านผู้อ่าน แม่ของฉันเป็นติ่งคุณชายกลางแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่ ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับขับสู้เพียงไหน (โปรดทิ้งกระเป๋า กองไว้หน้ารั้วบ้านชายกลาง แล้วกลับสู่ความเป็นจริงเถอะแก)

จากชายกลางแห่งบ้านทรายทอง แม่ก็ยังคงเพ้อหาชายกลางต่อไปในละครเรื่อง พจมาน สว่างวงศ์ ซึ่งเป็นภาคต่อของเรื่องบ้านทรายทอง จากนั้นก็มาต่อกันด้วยละครเรื่อง เจ้าสาวของอานนท์ (ภาคต่อเรื่องปริศนา) และชายกลางก็ยังมีผลงานละครเรื่องอื่นให้แม่ตามไปติ่งอีกมากมาย เช่น รัตติกาลยอดรัก วนาลี รอยมาร วนิดา และทวิภพ เป็นต้น (โดยเรื่อง ทวิภพ ทำให้แม่ยิ่งพร่ำเพ้อ เปลี่ยนคำเรียกขานจากชายกลาง มาเป็นคุณหลวงแทน)

ฉันได้ตระหนักว่าระดับความชอบของแม่ที่มีต่อชายกลางนั้น มากมายขนาดไหน ก็ตอนที่แม่หอบสมาชิกในครอบครัว (มีพ่อ แม่ ฉัน และน้อง) ไปดูละครเวทีเรื่อง ไร่แสนสุข ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรม เป็นการดูละครเวทีเรื่องแรกในชีวิตของฉันและน้อง

เรื่องราวในละครเป็นอย่างไร ฉันก็จำไม่ค่อยได้ซะแล้ว แต่ที่จำได้แม่นจนบัดนี้ คือ เพลงที่ถูกนำมาร้องในละคร เป็นเพลงเกี่ยวกับบรรดาสัตว์เลี้ยงในไร่ (หากข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะมันก็ผ่านมานานมากแล้ว) เพลงนี้มีเนื้อร้องว่า “ห-น-อ-น หนอน เป็นสัตว์กินได้ แต่ว่าหมอนนั้นไซร้ เอาไว้หนุนนอน ถ้าทำท่าอย่างนี้ เขาเรียกว่าหมุน แต่อยู่บนหัวพ่อคุณ ก็คือหงอนแดง”

เหมือนฉันจะพอจำได้นิดหน่อยว่า ชายกลางของแม่ในตอนนั้น แต่งตัวเป็นไก่ โดยความสนุกของเพลงนี้ อยู่ที่บรรดาตัวละครเด็กๆ ในเรื่องที่พากันหัดร้องเพลงตามที่ผู้ใหญ่ร้องให้ฟัง ต่างก็มีปัญหากับการอ่านออกเสียงคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร “ห” เมื่อเจอคำไหนที่มีอักษรตัวนี้นำหน้า เด็กๆ จะข้ามการออกเสียงพยัญชนะตัวถัดไป ทำให้คำที่อ่านออกมานั้น เพี้ยนไปจากคำเดิม

เพี้ยนยังไงน่ะเหรอ ก็จากเนื้อเพลงข้างต้น เวลาเด็กๆ ร้องก็จะฟังได้ประมาณนี้ “ห-น-อ-น หอน เป็นสัตว์กินได้ แต่ว่า หอน นั้นไซร้ เอาไว้ หุน นอน ถ้าทำท่าอย่างนี้ เขาเรียกว่า หุน  แต่อยู่บนหัวพ่อคุณ ก็คือ หอน แดง”

ฉันจำได้ว่า หลังจากละครจบ ชายกลางของแม่ได้ลงจากเวทีแสดง มาทักทายบรรดาผู้ชม โดยมีแสงไฟส่องไปตามทางที่คุณชายกลางเดิน คิดว่าตอนนั้น แม่คงฟินเกินบรรยายเลยแหละที่ได้เห็นดาราขวัญใจตัวจริง เสียงจริง ถึงขนาดชี้ชวนให้พ่อ ฉัน และน้อง ให้ดูคุณชายกลางที่กำลังเดินอยู่ในหมู่ผู้ชม แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยความสุขปนตื่นเต้นว่า “นั่นไงลูก ศรัณยู”

กลับบ้านไปคืนนั้น ฉันเดาว่าแม่คงหลับฝันหวาน (ไม่แน่ว่า แม่อาจฝันแบบ mix&match เห็นคุณชายกลาง ยืนเด่นเป็นสง่า รอต้อนรับแม่อยู่หน้าประตูบ้านทรายทอง โดยคุณชายกลางนั้น อยู่ในชุดไก่ มีหงอนสีแดง ใส่กางเกงสีน้ำเงินสดใส 555) ส่วนฉันกับน้อง ก็คงหลับฝันถึงบทเพลงในละครที่ไปดู (คนแต่งเพลงนี้เก่งมาก เพราะสามารถทำให้เพลงนี้ติดอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดมา จากการฟังในตอนเด็กแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น)

หากสังเกตดีๆ แล้ว ฉันว่าหน้าตาของพ่อจ๋าก็มีบางส่วนที่คล้ายคลึงกันกับชายกลาง พระเอกขวัญใจของแม่เหมือนกันนะ (เคยเห็นรูปถ่ายขาว-ดำในชุดรับปริญญาของพ่อจ๋า อู้หู...หน้าตาหล่ออย่างกับอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เคยแอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าพ่อจ๋าหันไปเอาดีด้านการแสดง ก็คงไม่แคล้ว ได้ติดอันดับดาราคนโปรดในใจแม่ เหมือนอย่างชายกลางก็เป็นได้

แต่เห็นทีฉันคงไม่จำเป็นต้องมโนไปไกลกว่านี้ เพราะถึงอย่างไร ทั้งชายกลาง/คุณหลวง หรือแม้กระทั่งเจมส์จิ ก็คงต้องหลีกทางให้พระเอกตัวจริงของแม่...พ่อจ๋าของฉัน

Source
ภาพประกอบ: Photo by Yves Chaput from Pexels

Comments