อัญชลี จงคดีกิจ คือหนึ่งในศิลปินไทยที่ฉันชื่นชอบ เพลงของพี่ปุ๊ ฉันได้ฟังตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก จำได้ว่า สมัยนั้นพี่ปุ๊โด่งดังมาก ด้วยบุคลิกและการแต่งตัวเท่ ไม่เหมือนใคร ทำให้เธอเป็นหนึ่งในไอดอลในใจฉันเสมอมา
แน่นอนว่าหากพูดถึงพี่ปุ๊ แทบทุกคนจะต้องนึกถึงเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง หนึ่งเดียวคนนี้ บทเพลงที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์ เอซโพดำ (The ace of spades) ฉันเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีอาการเช่นเดียวกับฉัน เพียงแค่ได้ยินประโยคเริ่ม “จากบทเพลงหนึ่งเดียวคนนี้...” ก็พร้อมจะยกใจทั้งดวงให้กับพี่ปุ๊
ฉันเหงา เป็นบทเพลงที่ทำให้ฉันเศร้าตามไปกับอารมณ์เพลง ยิ่งตอนที่ร้องว่า “นกตัวนั้นหลับตา คิดว่ามันคงเหงา นกก็เหมือนกับเรา เศร้าด้วยความขื่นขมเพียงใด” นึกภาพตามแล้วยิ่งรู้สึกเดียวดาย (แต่คิดว่าเพลงนี้ ไม่น่าจะเหมาะกับนกพิราบสักเท่าไหร่ บินมาที เป็นฝูง พร้อมอุนจิจากฟากฟ้า แบบว่าหมดกัน อารมณ์เหงา เศร้า เปลี่ยนมาเป็นเคืองนกแทน)
หรือจะเป็นเพลงอย่าง คิดไปเอง ที่ฟังแล้ว นึกถึงบทบาทการแสดงของพี่ปุ๊ จากภาพยนตร์เรื่อง ด้วยรักคือรัก ที่แสดงคู่กับพี่เบิร์ด ธงไชย แม็คอินไตย์ ตั้งแต่สมัยที่พี่เบิร์ดยังไม่เป็นนักร้องเลย อู๊ย...อย่าให้พูด สมัยนั้น หนังเรื่องนี้ดังมากเลยนะ
นอกจากสามเพลงข้างต้นแล้ว เพลงอื่นๆ จากอัลบั้ม หนึ่งเดียวคนนี้ ก็มีแต่เพลงดังที่ฟังง่าย และติดหูมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างเช่น กลัวเพี้ยน ต้องระวัง อยู่ไปวันวัน และฝ่ายเดียว เป็นต้น ซึ่งฉันคิดว่าน่าทึ่งมาก กับการที่แทบทุกเพลงในอัลบั้มนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงฮิต เมื่อวัดจากความรู้สึกส่วนตัว ถือว่าอัลบั้มนี้ทำได้เกินเกณฑ์ปกติไปมาก เพราะส่วนใหญ่ ในหนึ่งอัลบั้มของศิลปินคนใดก็ตาม มักจะมีเพลงที่โดนใจฉันแค่สองสามเพลงเท่านั้นแหละ
ด้วยความคิดถึง เพลงจากอัลบั้ม Crossroads ที่ออกในปี พ.ศ. 2540 เป็นบทเพลงที่ทำให้ฉันฟังแล้วตื่นเต้นเป็นนักหนากับการกลับมาของพี่ปุ๊ จำได้ว่าตอนได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรกจากทางวิทยุ แทบจะซอยเท้าถี่ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอวันที่เทปออกวางแผง เพื่อจะพุ่งตัวไปซื้ออย่างว่องไว
เพลงชื่อเดียวกันกับอัลบั้มนี้ อย่าง Crossroads ก็เป็นเพลงความหมายดี ฟังแล้ว feel good ดีต่อใจ (และต่อหูของคนฟังมาก) เมื่อได้ฟังเพลงจากอัลบั้มนี้แล้ว ทำให้ฉันได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็ยังคงชื่นชอบและชื่นชมพี่ปุ๊ นี่คือศิลปินที่สามารถครองพื้นที่ในใจฉันไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยไม่ผันแปรไปตามวันเวลา
แม้ในยามที่ฉันอยู่ไกลบ้าน เสียงของพี่ปุ๊ ก็ช่วยเป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับฉัน จำได้ว่าในตอนนั้น ฉันทำงานพิเศษช่วงหลังเลิกเรียน เมื่อทำงานไปสักระยะหนึ่ง ฉันก็เริ่มมีเงินเก็บ ซึ่งเป็นเงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองเป็นครั้งแรก ยังจำความรู้สึกตอนที่ฉันหยิบเงินที่เป็นค่าแรงจากการทำงานออกมาจากกระเป๋า เพื่อเอามาเก็บใส่ซอง มันดีใจและภูมิใจมาก ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบไปทุกวัน จนในที่สุด ฉันก็สามารถซื้อ iPod เป็นของตัวเองได้สำเร็จ
หนึ่งในเพลงแรกๆ ที่ฉันทำการดาวน์โหลดเข้าเครื่องใหม่แกะกล่อง คือ ก็เคยสัญญา เพลงของอัสนี-วสันต์ โชติกุล แต่เป็นเวอร์ชันที่พี่ปุ๊เป็นคนร้อง ด้วยประสิทธิภาพของ iPod นั้น ไม่ต้องพูดถึง เสียงดัง ฟังชัด ราวกับพี่ปุ๊มาร้องอยู่ข้างๆ เลยทีเดียวเชียว เป็นความรู้สึกดีเกินบรรยาย ช่วยลดความเหนื่อยจากการทำงานและอาการคิดถึงบ้านลงไปได้มาก
รัก เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ฉันประทับใจ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของพี่ปุ๊ บวกกับทำนองเพลงที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย รวมทั้งเสียงเปียโนพลิ้วๆ ฟังแล้วราวกับการสัมผัสขนนกอย่างไรอย่างนั้น เบา นุ่ม ละมุน อืม...พูดแล้วก็อยากกิน sponge cake ขึ้นมาทันใด (มันเกี่ยวกันมั้ย)
สุดท้าย ท้ายสุด แต่เป็นเรื่องสำคัญที่อยากจะพูดถึง คือ ครูสอนเปียโนคนแรกของฉันมีรูปร่าง หน้าตาค่อนข้างคล้ายคลึงกับพี่ปุ๊อยู่พอสมควร และแน่ใจว่าไม่ได้เป็นการมโนไปเองคนเดียว เพราะแม่ของฉันก็เคยพูดทำนองนี้เหมือนกัน (เอ...หรือว่าจะเป็นการมโนหมู่ ทั้งแม่และลูก)
ดังนั้น สมัยก่อนเวลาเรียนเปียโนกับครูท่านนั้น ฉันเลยรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองกำลังได้เรียนอยู่กับอัญชลี จงคดีกิจ (เอ่อ...ตรงนี้มั่นใจว่าเป็นการมโนของแกเองแต่เพียงผู้เดียวนะ)
แต่...มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องมโน คือการเปิดเพลงของพี่ปุ๊ฟังก่อนนอนเพื่อขับกล่อมตัวเอง ยามนิทราในคืนนี้ของฉัน น่าจะเป็นการเข้านอนด้วยอารมณ์ร็อกนิดหน่อย เผลอๆ ช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น อาจละเมอ ชูมือที่กำไว้ขึ้นมา พร้อมเสียงฮัม “จากบทเพลงหนึ่งเดียวคนเน้...นนนนน” จากนั้นก็หลับฝันดีจนถึงเช้า
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels
Comments
Post a Comment