ตู้หนังสือของแม่


เมื่อแม่แต่งงาน คุณยายของฉันได้ให้ของขวัญแต่งงานกับแม่มากมาย ในบรรดาของขวัญเหล่านั้น มีตู้หนังสือรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาเฟอร์นิเจอร์ที่คุณยายสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้แม่ได้เอาไว้ใช้ประโยชน์ที่บ้านใหม่ของแม่

ตู้ใบนี้ จึงเป็นตู้ดึกดำบรรพ์ที่อยู่คู่บ้านมาเป็นเวลานาน จะว่าไปแล้ว ตู้นี้ก็อยู่มาก่อนฉันเกิดซะอีก (ขอถามหน่อยเถอะ ถ้าตู้ดึกดำบรรพ์ แล้วตัวแกเองที่อายุน้อยกว่าตู้นิดเดียว จะเรียกว่าอะไรกัน ดึกดำบรรพ์จิ๋วเรอะ)

ด้วยความที่แม่ชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ตามข้อมูลที่ฉันได้จากสายสืบ (ไม่ใช่ใครที่ไหน น้าของฉันนั่นเอง) ได้ข่าวว่าแม่อ่านมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย บางครั้งบางคราว แทนที่จะอ่านหนังสือเรียน แม่ก็แอบคุณยาย เพื่อมานั่งอ่านนิยายเงียบๆ (คิดว่าหลังจากนั้น แม่คงเก็บเรื่องราวจากนิยายที่อ่าน เอาไปฝันกลางวันต่อ)

ดังนั้น นอกจากบรรดาสารานุกรมที่คุณยายเป็นคนซื้อให้ และถูกจัดวางเรียงกันเป็นตับอยู่ที่ชั้นบนสุดของตู้แล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ในตู้ใบนี้ จึงเต็มไปด้วยหนังสือนิยายมากมายของแม่

เรื่องที่ฉันจำได้ว่าเคยหยิบยืมมาอ่าน คือ ปริศนา ของ  ว. ณ ประมวญมารค, สายรุ้ง ของ ทมยันตี หรือจะเป็นหนังสือแปล อย่าง หนังสือชุด บ้านเล็กในป่าใหญ่ (Little House in the Big Woods) ที่แต่งโดย Laura Ingalls Wilder ฉันก็ได้อ่านเป็นครั้งแรกจากตู้หนังสือใบนี้

นิยายส่วนใหญ่ที่ฉันหยิบออกมาอ่าน มักจะเป็นนิยายเรื่องที่ถูกสร้างเป็นละคร เมื่อฉันได้ดูแล้วติดใจ ทำให้ต้องกลับไปหยิบหนังสือออกมาอ่าน เพราะอยากจะรู้ว่าเรื่องราวจากต้นฉบับในหนังสือ จะมีความเหมือนหรือแตกต่างกับละครที่ได้ดูมากน้อยแค่ไหน

หนึ่งในนิยายที่ฉันไปตามอ่าน หลังจากถูกนำมาสร้างเป็นละครแล้วโด่งดังมาก คือ ปริศนา โดยมี ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น หม่อมเจ้าพจน์ปรีชา และ ลลิตา ปัญโญภาส แสดงเป็น ปริศนา ซึ่งละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอแจ้งเกิดอย่างงดงาม

ใครที่เป็นแฟนนิยายของ ว. ณ ประมวญมารค (นามปากกาของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต) น่าจะทราบกันดีว่า ปริศนา เป็นหนึ่งในนวนิยายไตรภาค โดยอีกสองเรื่องในหนังสือชุดนี้ ได้แก่ เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี หากใครได้อ่านเรื่อง ปริศนา จนจบเรียบร้อยแล้ว ส่วนมากก็น่าจะอยากติดตามเรื่องราวของตัวละครตัวอื่นต่อไป เช่นเดียวกันกับการดูละคร เมื่อได้ดูเรื่องหนึ่งแล้วชื่นชอบ ก็ย่อมอยากดูเรื่องที่เหลืออีกสองเรื่องตามไปด้วย

แม้ยังเป็นเด็ก แต่ฉันก็จำได้ว่า ช่วงนั้น แม่และน้าของฉัน ต่างพากันติด ปริศนา กันหนึบหนับ เรียกว่าเพลงละครขึ้นเมื่อไหร่ ต้องมาเกาะติดหน้าจอโทรทัศน์ และเฝ้ารอดูละครเรื่องนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ และเพลงซึ้งอย่าง ความในใจ ที่แต่งคำร้อง-ทำนอง โดย วิรัช อยู่ถาวร และได้ ท่านชายพจน์ พระเอกของเรื่องเป็นผู้ขับร้อง ทำเอาคนดูละครอย่างแม่และน้า ฟังเพลงไป เคลิ้มไปกับความหล่อของท่านชาย

สายรุ้ง บทประพันธ์ของทมยันตี ก็เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่เคยนำมาทำเป็นละคร จำได้ว่า แอน ทองประสม แสดงคู่กับ จอนนี่ แอนโฟเน่ เป็นเรื่องที่พอดูละครจบ ฉันต้องไปค้นหนังสือมาอ่าน ได้อ่านนิยายแล้ว รู้สึกชอบยิ่งกว่าดูละครอีก จากนั้น ฉันก็เฝ้าตามอ่านบทประพันธ์ของทมยันตีอีกหลายต่อหลายเรื่อง (และเสียน้ำตาให้กับนิยายของนักเขียนท่านนี้ไปหลายเรื่อง)

บ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่ม ที่ฉันเคยหยิบมาอ่าน ตอนแรกเห็นชื่อเรื่อง นึกว่าเป็นนิทานสำหรับเด็กซะอีก แต่พอหยิบมาเปิดดู ไม่เห็นภาพตัวการ์ตูนประกอบเลย ตอนหลังถึงได้รู้ว่า เค้าเรียกหนังสือประเภทนี้ว่า วรรณกรรมเยาวชน จำได้แต่ว่า ตอนที่ฉันอ่านมาถึงบทที่บรรยายเกี่ยวกับอาหารและการถนอมอาหารเพื่อเอาไว้กินในฤดูหนาวแล้ว รู้สึกหิวมาก อยากกินแฮม และหมูรมควัน ขึ้นมาทันใด

ทุกวันนี้ ตู้หนังสือใบนี้ ก็ยังคงบรรจุหนังสือแต่เก่าก่อนของแม่เอาไว้เช่นเดิม ที่เพิ่มเติม คือ มีบรรดาหนังสือของฉันและน้อง เข้ามาเป็นสมาชิกร่วมตู้ ไม่ว่าจะเป็น วรรณกรรมเยาวชนหลากหลายเล่ม นิยาย (ความเป็นหนอนนิยายนี้ น่าจะได้รับการถ่ายทอดทางสายเลือดสินะ) หนังสือรุ่น หนังสือภาษาอังกฤษ รวมไปถึงอัลบั้มรูปถ่ายของทุกคนในบ้าน ที่ถ่ายโดยกล้องฟิล์ม ก็ถูกเก็บไว้ในตู้หนังสือใบนี้เช่นเดียวกัน

ตู้หนังสือของแม่ จึงเปรียบประดุจของที่ระลึกจากคุณยาย เสมือนกล่องขนาดใหญ่ที่ช่วยให้นึกถึงความทรงจำในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่กง (คุณตาของฉัน) ยังมีชีวิตอยู่ สมัยแม่กับพ่อยังคงเป็นหนุ่มสาว ตอนที่น้าของฉันทั้งคู่ยังคงเป็นวัยรุ่น รวมถึงสมัยวัยเยาว์ของฉันและน้อง

เมื่อคิดถึงวันเวลาเก่าก่อน เพียงแค่เปิดตู้ ภาพความทรงจำเหล่านั้น ก็เข้ามาระยิบระยับอยู่ในใจฉัน ให้มีรอยยิ้มและรู้สึกอบอุ่น อุ่น...ตรงหัวใจ

Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels

Comments