ต้นปีบ หรือ กาสะลอง เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ฉันชื่นชอบ เหตุผลแรกที่ชอบก็น่าจะเหมือนคนทั่วไป คือ ติดใจกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกปีบ ลักษณะรูปทรงของดอกที่ดูเรียบง่าย โดยมีก้านยาวสีเขียวอ่อน ตัวดอกสีขาว มีกลีบแยกออกเป็นห้าแฉก ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ฉันหลงรักต้นไม้ชนิดนี้
ฉันได้สัมผัสกับต้นปีบและดอกปีบเป็นครั้งแรกก็เมื่อตอนสมัยยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลาย จำได้ว่าครั้งนั้น ฉันได้ติดสอยห้อยตามเพื่อนคนหนึ่งที่คบกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล ยันประถม และเรื่อยมาจนมัธยม ไปเรียนพิเศษวาดรูปด้วยกัน เนื่องจากเพื่อนคนนี้มีความฝันอยากจะเป็นสถาปนิก จึงจำเป็นจะต้องเรียนกับครูผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มทักษะในด้านการวาดเขียน
จำไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงตกลงใจจะไปเรียนด้วยกันกับเพื่อน แต่เมื่อหลวมตัวไปแล้ว จะเปลี่ยนใจก็กลัวเพื่อนจะโกรธ เลยได้ไปนั่งลากเส้นตั้งแต่เส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม วงรี วาดคนที่เป็นแค่โครงร่างคร่าวๆ มีหัวกลมๆ ตัวรีๆ กับเส้นที่เป็นแขนขา วาดกล่องทรงลูกบาศก์ ฯลฯ
สถานที่เรียนวาดรูปในครั้งนั้น คือใต้ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของคุณครูนั่นแหละ ฉัน เพื่อน และคุณครู พากันปักหลักตรงม้านั่งยาวที่ทำจากไม้และถูกทาเคลือบด้วยสีขาวให้ความรู้สึกอบอุ่น ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนมาก แม้ตัวฉันจะไม่ถนัดกับการวาดเขียนเท่าไหร่นัก แต่สถานที่เรียนก็ช่วยให้เพลินตา เพลินใจได้บ้าง
ครูที่สอนก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่เพื่อนของฉันอยากจะเข้าเรียนนั่นแหละ มองดูครูวาด ขีดเส้นไปมา ดูเพลินดี แต่พอลองเริ่มวาดเอง ก็รู้ตัวเลยว่า อันตัวฉันนี้ น่าจะไร้ซึ่งความถนัดทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างสิ้นเชิง หันไปดูเพื่อน เห็นมันกำลังตั้งใจวาดเต็มที่ ทำให้ฉันโล่งใจได้หน่อยนึงว่า การมาเรียนวาดรูปเบื้องต้นของฉันและเพื่อน อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนที่น่าจะได้ประโยชน์จากการเรียน (จะใครล่ะ ก็เพื่อนของฉันไง ไม่ใช่ฉันหรอก)
ในตอนที่ฉันกำลังเซ็งๆ จากการจรดปลายดินสอลงในสมุดวาดภาพ เพื่อวาดบรรดาเส้นตรง เส้นโค้งทั้งหลาย ทันใดนั้น เจ้าดอกปีบดอกเล็กๆ สีขาวดอกหนึ่งก็ร่วงลงมาตรงหน้า หล่นใส่สมุดวาดภาพของฉันราวกับมีคนจับมาวางไว้อย่างไรอย่างนั้น เมื่อก้มลงมองดอกไม้สีขาวที่ร่วงลงมา ฉันจึงวางดินสอ ลืมเพื่อน ครูผู้สอน และโลกรอบตัวไปชั่วขณะ และหันมาพิจารณาเจ้าดอกไม้ดอกนั้นแทน
เมื่อหยิบเจ้าดอกไม้สีขาวขึ้นมาดม ฉันก็รู้สึกประทับใจกับกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นอย่างมาก จำได้ว่าวันนั้น หลังจากเลิกเรียน ฉันเก็บเจ้าดอกปีบดอกนั้นและอีกหลายๆ ดอกที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้น ใกล้กับโต๊ะที่นั่งเรียน แล้วเอาใส่ไว้ในสมุดวาดรูปเพื่อพกกลับไปบ้าน
จากความประทับใจในครั้งนั้น ทำให้ฉันนึกเล่นๆ ว่าอยากจะปลูกต้นปีบไว้ที่บ้านบ้าง เพื่อฉันจะได้เก็บดอกที่ร่วงหล่นเอามาดมให้ชื่นใจไปเลย และภายในเวลาต่อมา ฉันก็ได้ค้นพบว่า ตัวฉันนั้นมีความหลงใหล ชื่นชอบบรรดาดอกไม้ที่มีสีขาวและมีกลิ่นหอมมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโมก, มะลิ, พุดซ้อน และปีบ เป็นต้น
ตัดภาพมา ณ ปัจจุบันที่ใกล้จะสิ้นเดือนพฤศจิกายนเข้าไปทุกที โดยในเช้าวันนี้ สภาพอากาศในกรุงเทพมีความเย็นแบบเบาบางให้ฉันได้ดีใจนิดนึง พร้อมดอกปีบที่ร่วงเกลื่อนกลาดตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน ฉันเลยเดินไปเก็บเพื่อเอาไปถวายพระ ยิ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดอกปีบจะร่วงหล่นลงมามากเป็นพิเศษด้วย ทำให้บางวันฉันสามารถเก็บได้เป็นกอบเป็นกำ และแบ่งบางส่วนไปให้แม่ของฉัน แม่มักจะเอาเจ้าดอกปีบที่ฉันเก็บให้ไปลอยในแก้วใสๆ ที่ใส่น้ำไว้เรียบร้อย เมื่อใดที่ได้เห็น เมื่อนั้นจะรู้สึกหอม ชื่นตา ชื่นใจ ทุกครั้งไป
เผื่อใครคาใจ เพื่อนของฉันที่เคยไปเรียนวาดรูปด้วยกันในครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ ทำงานเป็นสถาปนิก รับงานอิสระ ส่วนฉันนั้น ยังคงหลงรักดอกกาสะลองอยู่มิรู้คลาย
Source
ภาพประกอบ: My own collection
Source
ภาพประกอบ: My own collection
Comments
Post a Comment