ฉันกับเหล่างานบ้าน


งานบ้านถือเป็นงานประจำอย่างหนึ่งของฉัน ขอบเขตของงานสามารถร่ายยาวตั้งแต่ การล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ขัดระเบียง ซักผ้า ตากผ้า พับผ้า นี่ยังไม่นับงานสวนอย่างการกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาตามพื้นสนามหญ้า (โดยขณะที่มือกวาด ปากก็แอบบ่นลมฟ้าอากาศที่ไม่ปรานีกับมนุษย์ตาดำๆ อย่างฉันบ้างเลย) การเล็มกิ่งไม้ให้เข้ารูปเข้ารอย และการรดน้ำต้นไม้

เมื่ออาทิตย์ก่อน ท่อน้ำตรงอ่างล้างจานที่บ้านเกิดชำรุดขึ้นมา ทำให้จากที่เคยล้างจานด้วยความสะดวกสบายที่อ่าง ต้องเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้ไม้เตี้ยๆ และนั่งล้างจานตรงก๊อกน้ำที่ใช้สำหรับรองน้ำทำความสะอาดบ้านแทน เป็นอะไรที่ทรมานสังขารพอดู

ใครไม่คุ้นกับการล้างจานแบบนี้ จะบอกว่ามันก็คือการล้างจานแบบ “มวลรวม” ขั้นแรกเราก็จัดการเทน้ำยาล้างจานใส่ฟองน้ำ แล้วก็ขัดถูให้เหล่าจานชามเต็มไปด้วยฟอง จากนั้นก็เอาจานเคลือบฟองเหล่านั้นหย่อนใส่กะละมังเพื่อล้างคราบน้ำยาล้างจานออก (ขอเรียกขั้นตอนนี้ว่า ล้างน้ำแรก) เสร็จจากน้ำแรก จานเหล่านั้นก็ถูกหย่อนลงไปในกะละมังอีกใบสำหรับล้างน้ำสอง เพื่อให้เราแน่ใจว่ามันสะอาดและปราศจากคราบน้ำยาล้างจานอย่างแท้จริง เวลาอาทิตย์กว่าๆ ที่ต้องล้างจานแบบมวลรวมนี้ ทำให้ฉันนึกรักอ่างล้างจานที่บ้านมากกว่าเดิมแบบเป็นสาระสำคัญ

ความรู้สึกของฉันที่มีต่อการล้างจาน ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เป็นประเภทของงานบ้านที่เรียกว่าไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้สร้างความระคายเคืองใจมากมายนัก ส่วนงานบ้านที่ฉันจะต้องสร้างพลังใจในการทำ เห็นจะหนีไม่พ้นการกวาดบ้าน ถูบ้าน ไหนจะต้องรบรากับบรรดาฝุ่นที่ลอยอวลอยู่รอบตัวราวกับ confetti ขนาดจิ๋วในตอนที่ทำการปัดกวาด (ฝุ่นมันคงไม่ให้ความรู้สึกน่ารักเหมือน confetti มั้ยแก) ยังจะต้องพบเจอกับบรรดาวัตถุต่างๆ ที่ฉันขอขนานนามว่า “เศษซากไม่พึงประสงค์” ที่จะต้องทำการกำจัดก่อนที่จะทำการถูพื้น

เจ้าพวกเศษซากไม่พึงประสงค์นี่แหละที่รบกวนใจฉันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเศษผมที่ร่วงตามพื้น (อันนี้เกลียดมาก) เศษดิน เศษหญ้าจากพื้นสนามที่มาพร้อมกับเจ้าสุนัขแสนรักที่เดินเข้ามาในบ้าน เศษอาหารเล็กๆ ที่ตกอยู่บนพื้นและคนทำตกไม่ทันเห็น หรือจะเป็นขี้จิ้งจกเม็ดเรียวสีดำๆ มีปลายสีขาวที่คุณจิ้งจกเพื่อนร่วมอาศัยปล่อยไว้เป็นที่ระลึก และก็ยังมีซากใยแมงมุมตามมุมต่างๆ ของบ้าน (ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า ทำไมคนถึงเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่าแมงมุม เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามมุมต่างๆ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นมุมตู้เก็บของ หรือตามเหลี่ยมมุมของห้อง) เป็นต้น

เวลาปัดกวาดไป ก็ได้แต่หงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว จนนึกอยากให้ตัวเองสามารถร่ายคาถาในการช่วยทำความสะอาดบ้านได้เหมือนกับ Mrs. Weasley ในเรื่อง Harry Potter ที่เพียงแค่การสะบัดไม้กายสิทธิ์พร้อมเปล่งคาถา ทั่วทั้งบ้านก็จะสะอาดเอี่ยมอ่องฉับพลันทันใด น่าจะช่วยให้อาการ OCD ของฉันบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง (ตื่นเถอะ มักเกิ้ลจอมฝันเฟื่อง! เจ้าควรไปสะบัดไม้กวาดทำความสะอาดบ้านของเจ้าแทนน่าจะดีกว่านะ 555)

เสร็จจากการกวาดบ้าน ก็จะตามมาด้วยการถูบ้าน ซึ่งแม้ฉันจะได้ทำการกวาดพื้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เวลาที่ถูพื้น ฉันก็มักจะได้เห็นพวกเศษซากไม่พึงประสงค์ที่น่าจะมีภูมิต้านทานต่อพลังไม้กวาดของฉัน เพราะเศษซากพวกนี้จะยังคงหลุดรอด หลงเหลืออยู่ตามพื้น มาถึงจุดนี้ คลื่นแห่งความหงุดหงิดระลอกสองจะตามมา เพราะจะต้องกำจัดเศษซากตกค้างเหล่านั้นอีกรอบ เฮ้อ! ชีวิตของฉัน ทำไมมันช่างยากเย็นเยี่ยงนี้ อาการ OCD กำเริบ

แต่จะว่าไปแล้ว การถูบ้านนี่ก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้างนะ เวลาหงุดหงิด ฉันก็ลงแรงไปที่ไม้ถูพื้นมากกว่าเดิม ใส่อารมณ์ไปกับการทำพื้นบ้านให้สะอาด นอกจากความหงุดหงิดที่อาจจะลดลง (มั้ง) พร้อมเหงื่อที่ออกมาราวกับกำลังวิ่งมาราธอน พื้นบ้านก็ยังสะอาดไปด้วย (แกจะเห็นพื้นบ้านเป็นสนามอารมณ์ก็ได้ แต่อย่าลืมว่ายังเหลืออีกหลายห้องที่แกยังต้องลงแรงถูอีก ถ้าปล่อยของไปหมดตั้งแต่แรก แกจะลำบากทีหลังนะ อย่าหาว่าไม่เตือน)

ข้อดีของการใส่อารมณ์ไปกับการถูพื้นบ้านนี้ ทำให้การถูบ้านจะให้ความรู้สึกแตกต่างกับการล้างจาน เพราะเหล่าหม้อ ไห จาน ชาม ที่แสนจะบอบบางทั้งหลายแหล่ คงไม่สามารถรองรับอารมณ์โหดร้ายของฉันที่โหมกระหน่ำใส่พวกมันได้ เรียกว่าหงุดหงิดแค่ไหน ก็ลงแรงกับจาน ชาม ไม่ค่อยจะได้ (ปาจานแตกก็ไม่ดี เสียดายตังค์นะแก)

ดังนั้น พื้นบ้านนี่แหละที่เปรียบดั่งเพื่อนตายของฉัน เจอเรื่องราวไม่ถูกใจอะไรมา ก็ไปออกแรงกับพื้นบ้าน เหมือนไปเล่า ไประบายเรื่องราวเหล่านั้นให้พวกมันฟัง ซึ่งถ้าพื้นบ้านมีชีวิตและเกิดพูดโต้ตอบได้ขึ้นมา ฉันแน่ใจว่ามันคงแสดงความเอือมระอาและด่าฉันไปด้วย จากนั้นก็กระชากสายสะพายตำแหน่งเพื่อนตายที่ฉันมอบให้กับมัน และอาจจะเอาตัวมันมาทุ่มใส่ฉันให้ตายไปซะ เหมือนดังเช่นที่มันเคยถูกกระทำก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานบ้านทั้งหลายจะดูเป็นงานที่น่าเบื่อหน่ายมากแค่ไหน แต่เห็นทีว่าฉันกับพวกมันก็คงจะตัดกันไม่ขาดหรอก เพราะเมื่อใดที่ละเลยการทำงานบ้านเหล่านี้ ความสกปรกก็จะมาเยือน ซึ่งฉันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าตัวเองไม่น่าจะรับได้ (ดูดัดจริตเนอะ)

ถ้าให้เลือกระหว่างการลงทุนลงแรงล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน กับการต้องทนอยู่ในบ้านที่มองไปทางไหนก็เจอกับความสกปรกที่ไม่ถูกใจ (แล้วมันมีความสกปรกที่ถูกใจด้วยเรอะ) ฉันขอเลือกที่จะต้องเสียเหงื่อ หงุดหงิด (เล็กน้อยถึงมาก) แต่ได้อยู่ในบ้านที่สะอาด มองแล้วสบายตา อยู่แล้วสบายใจ เห็นจะดีกว่ากันเยอะเลย

คติประจำใจของฉันเพื่อให้ฮึกเหิมในการทำความสะอาดบ้าน

“ไม้กวาดคือยาชูกำลัง ไม้ถูพื้นเปรียบดั่งลมหายใจ เพื่อนตายคือพื้นบ้าน”

Source
ภาพประกอบ: Photo by Pixabay from Pexels

Comments